หนุ่มคลั่งทำลายข้าวของ ตร.เข้าระงับเหตุถูกแทงสาหัส

ราชบุรี - เกิดเหตุหนุ่มคลั่งทำลายข้าวของภายในบ้าน ตำรวจเข้าระงับเหตุถูกแทงสาหัส 1 นาย ขณะที่เจ้าตัวเจอยิงเจ็บ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เวลา 15.20 น. ร.ต.อ.พลาญชัย   ชัยชนะ  ร้อยเวรสภ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลบางโตนด  อ.โพธาราม  ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเข้าทำการระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง ที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.บางโตนด  จึงเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี 

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ ด.ต.ธนะชัย เอียดไหน หัวหน้าสายตรวจตำบลบางโตนด  ถูกอาวุธมีดแทงและฟันตามลำตัวหลายแผลได้รับบาดเจ็บสาหัส  ถูกนำส่งโรงพยาบาลโพธาราม อีกรายคือ นายปรีชา คุ้มแก้ว  อายุ 39 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่สะโพก 1 นัด  ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโพธารามเช่นกัน จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า สิ่งของภายในบ้านถูกทำลายพังเสียหาย

ร.ต.ท.กรสุวรรณ สุจริต รองสวป. สภ.โพธาราม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากบิดา นายปรีชา ว่า ขอให้มาระงับเหตุลูกชายเมายาอาละวาดทำลายข้าวของภายในบ้าน  จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม ด.ต.ธนะชัย และเพื่อนตำรวจอีก 1 นาย  เมื่อมาถึงบ้านที่เกิดเหตุพบนายปรีชายืนถือมีดอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็วิ่งออกมาไล่ฟันทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหนี  แต่ ด.ต.ธนะชัย  นั้นวิ่งไปชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างล้ม ทำให้นายปรีชาวิ่งมาใช้อาวุธมีดฟันและแทงเข้าที่หลังจำนวนหลายแผล ก่อนจะแย่งอาวุธปืนของด.ต.ธนะชัย มาแต่ตนกับเพื่อนตำรวจได้พยายามยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ให้วางมีดและปืน แต่คนร้ายก็ยังพยายามจะใช้อาวุธปืนยิงจึงได้ยิงสวนไป 1 นัด กระสุนถูกกระเป๋าสตางค์และทะลุไปที่สะโพกของนายปรีชาจนล้มลง  จึงได้เข้าทำการจับกุมตัว และรีบนำ ด.ต.ธนะชัย ส่งโรงพยาบาล

ด้านนางนางสุภาภรณ์ สวนมิ อายุ  37 ปี ภรรยา นายปรีชา กล่าวว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้สามีอาละวาดทำลายข้าวของได้ขนาดนี้  ที่ผ่านมาก็จะมีทะเลาะกันเป็นประจำซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องความหึงหวงมากกว่า  ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ธรรมดาเวลาทะเลาะตีกันเป็นเรื่องปกติเป็นประจำไม่มีอะไร หลังจากนั้น 2 วันต่อมาก็จะไปทำงานตามปกติ  แต่มาวันนี้เกิดเรื่องรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่กับนายปรีชา พร้อมทั้งอายัดตัวไว้เพื่อทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด