posttoday

3โจรปล้นร้านทองสมุทรปราการยิงเจ้าของดับ

02 ธันวาคม 2558

สมุทรปราการ - 3 คนร้ายก่อเหตุบุกปล้นร้านทองย่านซอยเทพารักษ์ 10 ยิงเจ้าของร้านเสียชีวิต

สมุทรปราการ - 3 คนร้ายก่อเหตุบุกปล้นร้านทองย่านซอยเทพารักษ์ 10 ยิงเจ้าของร้านเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. พ.ต.ต.วิเศษ พุ่มพวง สารวัตรเวร สภ. สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนบุกปล้นร้านทอง "ห้างทองสุวิมลเยาวราช" ตั้งอยู่ที่ ซอยเทพารักษ์ 10 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยคนร้ายได้ยิงเจ้าของร้านทองได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งญาติได้ช่วยนำส่งรักษาทีโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์  และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสามูลนิธิเดินทางตรวจสอบ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นร้านทองอยู่ริมถนนเทพารักษ์ ปากซอยเทพารักษ์ 10 ที่บริเวณหน้าร้านได้พบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวน 2 ปลอก เป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ภายในร้านได้พบพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายสุพล ชวาลากุล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านทองถูกยิงบริเวณหน้าผาก หลังเกิดเหตุบุตรชายได้นำส่งโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์แต่เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล  ภายในร้านยังได้พบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ที่พื้นภายในบรรจุอยู่จำนวน 5 นัด สภาพเปื้อนเลือดทั้งกระบอก ซึ่งเป็นปืนเจ้าของร้านทอง     

บุตรชายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่พ่อของตนนั่งอยู่ที่ร้านทอง ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน คนแรกสวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบสวมเสื้อคลุมสีแดงแขนยาว ใสกางเกงสีดำ เดินถือปืนเข้ามาในร้าน ส่วนคนร้ายคนที่ 2  สวมหมวกไหมพรมสีดำปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมสีเทาแขนยาว ใส่กางเกงสีดำ ได้ยืนดูต้นทางอยู่หน้าร้าน โดยคนร้ายที่สวมหมวกกันน็อกสีดำเข้ามาในร้านได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้หยิบทองรูปพรรณส่งให้ ระหว่างที่คนร้ายกำลังกวาดทองทั้งหมดเพื่อที่จะใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมานั้น ผู้ตายได้ชักปืนขนาด .38 ออกมาเพื่อที่จะยิงคนร้าย แต่คนร้ายเห็นก่อนจึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่ผู้ตายจำนวน 2 นัดกระสุนถูกที่หน้าผากผู้ตาย 1 นัด ส่วนอีกนัดกระสุนพลาด จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีออกมาไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีขาวแดง ไม่ทราบทะเบียนซึ่งมีคนร้ายอีกคนหนึ่งที่สวมหมวกไหมพรมสีดำติดเครื่องจอดรออยู่ ห่างจากร้านประมาณ 15 เมตรและพากันขับขี่หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุน่าจะมาตระเวนดูหลายครั้งแล้วจนกระทั่งสบโอกาสช่วงปลอดคนจึงเข้าลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป