ผู้เชี่ยวชาญฟันธงฉลามงับแหม่มออสซีที่ภูเก็ต

ภูเก็ต-ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลไทยเชื่อฉลามงับนักสาวออสเตรเลียเหตุสภาพรอยแผลฉีกขาดคล้ายถูกฟันใหญ่มีความคมกัด

นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์  ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลไทย กล่าวถึงกรณีน.ส.เจน เมียนี นักท่อเงที่ยวชาวออสเตรเลียถูกฉลามกัดบริเวณเท้าด้านซ้ายและฝ่าเท้าด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ขณะลงล่นน้ำที่บริเวณหาดกะรด อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ว่า เห็นสภาพรอยแผลแล้วเห็นด้วยกับนายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ที่ระบุว่ารอยแผลเกิดจากฉลามงับ สาเหตุเพราะลักษณะแผลมีขนาดใหญ่ รอบแผลมีลักษณะช้ำ หมายถึงถูกกัด ไม่ได้โดนทิ่มจากกระเบน หรือถูกปลาอื่นที่มีปากเล็กกว่ากัด ที่สำคัญขอบบาดแผลฉีกขาดคล้ายถูกของมีคมตัด แปลว่าฟันต้องคม และลึกจนถึงชั้นเนื้อ แปลว่า ฟันต้องใหญ่พอใช้ได้

"ผมคิดไม่ออกว่ามีปลาชนิดใดฟันใหญ่ คม และปากกว้างพอทำให้เกิดแผลแบบนี้ นอกจากฉลาม ซึ่งที่ผ่านมาคนที่ถูกฉลามกัดในเมืองไทยมีน้อยมาก ซึ่งรอบ 10 ปี มีเคยมีฝรั่งรายหนึ่งที่มาเที่ยวเกาะพงัน ว่ายน้ำไปตรงที่มีน้ำขุ่น ถูกฉลามกัดน่อง แต่ฝรั่งรายนั้นสามารถว่ายกลับมาจนถึงชายหาด เจ้าหน้าที่ได้รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่เสียเลือดมากจนเสียชีวิต ดังนั้นมีเพียงปลาฉลามเท่านั้นที่ว่ายเข้ามายังน้ำตื้นได้ แต่ถ้าถามว่าน่าจะเป็นฉลามชนิดใด ผมคิดว่าอาจเป็น bull shark หรือ ฉลามวัว ฉลามชนิดนี้พบทั่วโลก ที่ผ่านมาก็มีรายงานว่าฉลามจู่โจมคนเป็นประจำ ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 3 ของฉลามอันตรายที่สุด"นายธรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับฉลามที่ว่ายเข้ามาน้ำตื้นได้ โดยเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีผู้พบในทะเลไทย โดยเฉพาะที่จ.กระบี่  อย่างไรก็ตามฉลามตัวนี้อาจว่ายน้ำเข้ามาชายฝั่ง บังเอิญเจอนักท่องเที่ยวรายนี้ กำลังเล่นน้ำอยู่ ฉลามไม่ได้คิดกินคน แต่เห็นอะไรไหวๆ ก็เลยงับ เมื่อรู้ว่าไม่ใช่อาหาร ก็ไม่สนใจ ว่ายน้ำต่อไป ทั้งนี้ เน้นย้ำว่าฉลามไม่ได้คิดกินคน แค่เข้าใจผิดเท่านั้น จึงไม่ควรต้องตามล่าฉลามเพราะไม่ใช่ฆาตกร  สำหรับข้อระวังก็ไม่มีอะไร โอกาสถูกฉลามกัดมีน้อยมาก และอย่าไปโกรธเกลียดฉลาม แต่ละปีคนตายเพราะฉลามไม่ถึง 4-5 คน