posttoday

ขอหมายจับ'รองผกก.'ตัดไม้เถื่อน

02 กรกฎาคม 2553

ผบช.ภ.6 สั่งออกหมายจับรองผกก.นครไทยเอี่ยวไม้เถื่อน พร้อมเล่นงานวินัย

ผบช.ภ.6 สั่งออกหมายจับรองผกก.นครไทยเอี่ยวไม้เถื่อน พร้อมเล่นงานวินัย

พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรสารทูล ผบช.ภ.6 เปิดเผยกรณีนายตำรวจระดับรองผกก.และตำรวจสภ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีส่วนพัวพันกับขบวนการค้าไม้เถื่อนและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าว่าได้รับการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมแล้ว และได้บอกกับผู้ว่าฯให้ดำเนินการเต็มรูปแบบ เพราะถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ที่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างนี้
        
สำหรับการจับกุมกระบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและค้าไม้เถื่อนในเขต อ.ชาติตระการและอ.นครไทย จ.พิษณุโลก เป็นคดีที่ประชาชนทั่วให้ความสนใจมาก ตนได้สั่งการให้ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานเหตุการณ์ทางคดีออกเป็นสองส่วน
         
ส่วนแรก คือ คดีในส่วนของสภ.ชาติตระการ ที่ฝ่ายปกครองและป่าไม้ จับกุมผู้ขนไม้ออกมาจากจุดที่โค่น โดยจับกุมได้ที่บ้านหนองน้ำปอ ต.ท่าสะแก อ.ชาติตระการ มีผู้ต้องหาสองคน คือ นายชัยนิวัฒน์ จันทร์มีเทพ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ม.11 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (คนขับรถ) และนายทองใหม่ อันทะปัญญา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 331 ม.11 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยรับว่ามาขนไม้ทะค่าโมงปริมาตร 3.25 ลบ.ม. จากบ้านโป่งดินดำ ม.26 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย พร้อมกับรับกับพนักงานสอบสวนว่าเป็นไม้ของพ.ต.ท.ภพณครินทร์ ปานทอง รองผกก(ปป. ) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก
         
อีกคดีอยู่ในพื้นที่ สภ.นครไทย หลังจากจับกุมการตัดไม้มะค่าโมงได้ในพื้นที่บ้านโป่งดินดำ ม .26 ต . หนองกะท้าว อ.นครไทย ส่วนนี้มีผู้ต้องหา 8 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน คือ นายชม ขุนขำ นายแฉล้ม ปั้นคุ้ย นายทรัพย์ แสงสี นายสมควร พิณเพชร และด.ต.พร ก๊กพงษ์ สืบสวนสภ.นครไทย ทั้ง 5 คน พนักงานสอบสวน สภ.นครไทยได้ส่งดำเนินคดีตั้งข้อหา ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาล รวมถึงมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
         
ผบช.ภ.6 กล่าวว่า มีผู้ที่หลบหนียังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีอีก 3 คน คือ นายประยูร อันทะปัญญา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 331 ม.1 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และนายบุญชู จันทร์วิสุทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.17 ต. เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และพ.ต.ท.ภพณครินทร์ ปานทอง รองผกก(ปป.) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่ขณะนี้ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.นครไทย เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออหมายจับและเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยด่วนที่สุด
         
ทั้งนี้ ตำรวจ สภ.นครไทยที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับกระบวนการค้าไม้เถื่อนครั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการเอาโทษทางวินัยโดยด่วนที่สุด รวมถึงพิจารณาข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด คือ พ.ต.อ.จตุเดช อยู่สวัสดิ์ ผกก.สภ.นครไทย ด้วย เพราะไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะที่การดำเนินคดีต้องทำให้เต็มที่
        
 "พวกนี้เป็นพวกโบราณ สวนกระแสสังคม ทุกฝ่ายรณรงค์ป้องกันรักษาป่า แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐกลับทำผิดเสียเอง ขณะที่โทษทางวินัยนั้น เมื่อต้องโทษคดีอาญา อาจจะมีการพิจรษรพักราชการ หรือหากศาลตัดสินว่าผิด ก็ถึงขั้นไล่ออก ให้ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกติดตามแล้ว" พล.ต.ท.สุรสีห์ กล่าว
         
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตนสั่งการอย่างใกล้ชิด คดีนี้เป็นเรื่องของคดี ที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจและป่าไม้ต้องร่วมกันดำเนินการให้ถึงที่สุด รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับทราบเรื่องนี้แล้ว และจะมาในพื้นที่ด้วย เรื่องคดีตนติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ