เกษตรกรปลูกผักสวนผสมทดแทนยางราคาตก
พัทลุง-เกษตรกรตะโหมดลุยปลูกผักสวนผสมเสริมรายได้ แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
พัทลุง-เกษตรกรตะโหมดลุยปลูกผักสวนผสมเสริมรายได้ แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
นางชนัญชิดา หนูสีคง เกษตรอำเภอตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเกษตรอำเภอตะโหมด ได้มีการรณรงค์ ให้เกษตรกรมีการปลูกพืชผักสวนผสมในร่องยางพารา ยางพาราโค่นใหม่ อายุ ระหว่าง 1- 3 ปี และพื้นที่เหมาะสมซึ่งเป็นที่ว่างทำการปลูกพืชผักสวนผสม เพื่อเสริมสร้างรายได้ที่ดี และตลาดมีความต้องการสูงและต่อเนื่อง เช่น การปลูกผักเหรียง ถั่วหรั่ง อ้อย ไผ่หวาน ตะไคร้ โหระพา ผักกูด กล้วยหอมทอง กล้วยหิน ฯลฯ ขณะนี้ชาวสวนยางพารา ได้เริ่มทยอยตื่นตัวกันมาก ไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์เพราะจากยางพาราที่ตกต่ำ
"ในพื้นที่ อ.ตะโหมด ที่ปลูกถั่วหรั่ง ในช่วงราคาต่ำสุด 20 บาท/กก. มีผลผลิตประมาณ 14,000 บาท/ปี ผักเหรียง 80 บาท/กก. มีผลผลิตประมาณ 40,000 บาท / ปี และตลาดมีความต้องการตลอด ส่วนการตลาดมีรองรับไว้ เช่น มีศูนย์กระจายสินค้าไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ตลาดศูนย์ค้าส่งแม่ขรี ตลาดหัวอิฐ นครศรีธรรมราช ตลาดหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตลอดไปจนถึงประเทศมาเลเซีย โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้า มารับถึงพื้นที่" นางชนัญชิด กล่าว
นางชนัญชิดา ยังกล่าวอีกว่า แต่เกษตรกรต้องเตรียมพร้อมสำหรับแหล่งน้ำไว้ในการทำเกษตรกรรปลูกพืชผักเหล่านี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายใดที่โค่นยางพารา เช่น ประมาณ 10 ไร่ แล้วปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยหันมาปลูกพืชผักเหล่านี้ โดยจัดสรรแต่ละส่วนในการปลูกพืช ผัก โดยที่จะให้ผลิตทั้งปี และมีรายได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน
“เกษตรอำเภอตะโหมด มีความพยายามรณรงค์ ให้มีการปลูกพืชผักกันมากและตลอดมา ในพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้ เช่น พื้นที่ระหว่างร่องยาง พื้นที่ปลูกยางใหม่ อายุ 1-3 ปี และพื้นที่ว่างที่มีอยู่แล้ว ให้มีการทำสวนผักส่วนผสม หวังแต่ยางพาราหน้าเดียวไม่ได้ แต่ปรากฏสิ่งสำคัญ คือเกษตรกรมีความเคยชินกับสวนยางพารา นอกนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง คือใจรักการเกษตร แต่ถึงอ่างไรขณะนี้เกษตรกร เริ่มทยอยตื่นตัวกันมาก โดยรวมประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์”
นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า การทำสวนยางพาราเชิงซ้อน ไม่ใช่เชิงเดี่ยวจะประสบความสำเร็จอย่างสูดสุด บางเวลาจะมีรายได้กว่าสวนยางพาราหลายเท่าตัว และชาวสวนยางพาราจะมีรายที่ในคงและดี แต่ที่ผ่านมามองไม่เห็นความสำคัญรณรงค์ให้ทำพืชเชิงซ้อนระหว่างอกสวนยางพารา
“ทำพืชเชิงซ้อนในสวนยางพารา ประสบความสำเร็จตลอดมา คือปลูกผักเหรียง ผักกูด ผักหวานป่า และผักหวานบ้าน ผัก 4 ตัว ราคาตั้งแต่ 80 บาท / กก. และ 100 บาท และถึง 200- 300 บาท / กก. และเป็นความต้องการของตลาดที่สูงมาก”
นายทศพล กล่าวอีกว่า ทำสวนยางพาราพืชเชิงซ้อน ประสบความสำเร็จมากที่จังหวัดพัทลุง หลาย ๆ จังหวัดต้องสั่งซื้อ ขอยืนยันว่าสำหรับในช่วงหน้าฝนจะมีรายได้ดีกว่ายางพาราหลายเท่าตัว ทาง คยปท. ได้รณรงค์ทำสวนยางพาราพืชเชิงซ้อน มาตลอดระยะเวลา”