นายกฯกำชับกองทัพเร่งคลี่คลายสถานการณ์ไฟป่า
บิ๊กตู่ สั่ง ผบ.ทบ. ส่งทหารเร่งดับไฟป่า คลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว ขณะที่ 5 จังหวัดภาคเหนือยังมีหมอกควันเกินมาตรฐาน
บิ๊กตู่ สั่ง ผบ.ทบ. ส่งทหารเร่งดับไฟป่า คลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว ขณะที่ 5 จังหวัดภาคเหนือยังมีหมอกควันเกินมาตรฐาน
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้นขณะนี้ พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกและกองทัพภาคที่3 เร่งดูแลพร้อมคลี่คลายสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือให้ยุติโดยเร็ว ทั้งนี้เพราะ เป็นบัญชาของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและแก้ไขเหตุการณ์ทันที ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดไฟป่า
จากการทำงานร่วมกันของเหล่าทัพ กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่3 จังหวัด และส่วนราชการต่างๆพร้อมภาคประชาชน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการใช้รถน้ำออกพ่นละอองไอน้ำในอากาศ การลาดตระเวนร่วมภาคพื้นดินและทางอากาศ เพื่อหาจุดเกิดไฟ พร้อมเข้าดับทันที การทำแนวกันไฟในพื้นที่สำคัญ และการรณรงค์แจ้งเตือนอย่างเข้มข้น ทำให้ในภาพรวมสภาพอากาศในหลายจังหวัดของภาคเหนือดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. กองทัพภาคที่3 ได้ประสานให้มีการทำฝนหลวงใน 2 พื้นที่ ได้แก่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอนและ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นอกจากนี้ได้ทำการ ลาดตระเวนทางอากาศ บริเวณพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อหาพื้นที่ที่ทำให้เกิดหมอกควัน ส่วนกำลังภาคพื้นดิน ได้ดำเนินการควบคุมไฟป่า 2 พื้นที่ได้แก่ ต.ตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน และ บริเวณใกล้ศาลพะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก
จากกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยวบินในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากปัญหาหมอกควันในพื้นที่นั้น กองทัพภาคที่3 ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายดับไฟป่า ดำเนินการต่อกรณีดังกล่าวทันที โดยได้ดำเนินการทำฝนเทียมในพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมมอบหมายให้หน่วยทหารในพื้นที่กระจายกำลังเข้าหาจุดความร้อน หรือ hotspot เพื่อดำเนินการควบคุมไฟป่า และในวันที่ 15มี.ค. กองพลทหารราบที่ 7 นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจและลาดตระเวนทางอากาศ หากตรวจเจอจุด hotspot จะใช้กำลังภาคพื้นดินเข้าดับไฟป่าทันที
สำหรับ จ.เชียงราย ปัญหาหมอกควันเริ่มดีขึ้น แต่คุณภาพอากาศยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ จังหวัดทหารบกเชียงราย ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงรายและชุดเสือไฟ กรมอุทยานฯ เข้าทำการดับไฟป่าบริเวณบ้านโป่งปูเฟือง อ.แม่สรวย และที่บ้านแม่ปูคา ต.นางแล พร้อมได้ทำการพ่นละอองน้ำในอากาศในพื้นที่ อ.แม่ลาว เพื่อสร้างความชุ่มชื้นและลดหมอกควันด้วย
นอกจากนี้ได้ร่วมกับ สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 15 และราษฏรในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ บ้านห้วยหญ้าไซ จัดทำแนวกันไฟในพื้นที่โครงการ ฯด้วย
แม้สถานการณ์หมอกควันในเขตจังหวัดเชียงรายจะดีขึ้นในรอบ12ชม.แต่ยังต้องประชาสัมพันธ์โดยใช้วิทยุหลักทั้ง9สถานีและวิทยุชุมชนเพิ่มความถี่รณรงค์งดเผาและช่วยแจ้งจุดพบเห็นการเผาไฟเพื่อให้สถานกาณ์หมอกควันในพื้นที่ยุติลง
ล่าสุด สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือ มีจังหวัดที่มีคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน 5 จังหวัดคือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน และ พะเยาซึ่งในวันนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้ประสาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการทำฝนเทียมใน อ.สบเมย, อ.ปางมะผ้า ,อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.อมก๋อย ,อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ จำนวน 4 เที่ยวบิน
นอกจากนี้ ได้มีการปฏิบัติการทางอากาศ โดยกองบิน 41 นำเครื่องบิน BT67 บินโปรยละอองน้ำในอากาศในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้า 2 เที่ยวบิน และช่วงบ่าย 2 เที่ยวบิน รวมทั้งได้ ใช้เครื่องบินที่ปฏิบัติการฝนหลวงฯ ทำการ ลาดตระเวนทางอากาศ เมื่อตรวจพบ Hotspot จะใช้กำลังภาคพื้นดินเข้าทำการดับไฟป่า โดยในวันนี้มีการกำหนดเป้าหมายที่ต้องทำการลาดตระเวนทางอากาศ 31 เป้าหมาย พร้อมกันนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดชุดรณรงค์ 9 ชุด และสนธิกำลังจัดชุดลาดตระเวน และควบคุมไฟป่า จำนวน 15 ชุด กำลังพลชุดละ 30 นาย ทำการรณรงค์สร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งทุกชนิด ควบคู่ไปกับการพ่นละอองน้ำสร้างความชุ่มชื้นให้อากาศในพื้นที่วิกฤต และทำการดับไฟป่าบริเวณที่เกิด Hotspot ในพื้นที่ 5 จังหวัดข้างต้นด้วย