ผงะ!สาวรีดลูกใส่กล่องส่งให้แฟนดู

สาวฝ่ายบัญชีโรงแรม ประชดแฟน แท้งลูกตายยัดใส่กล่องส่งให้ดู

เวลา 22.00 น. วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ณัฐธวรรธน์ อัตถกิจวิโรจน์ ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนนำศพทารกยัดใส่กล่องมาให้บ้านเลขที่ 78 หมู่4 ซอย 4 เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุพบทารกเพศชายซึ่งมีอายุครรภ์ประมาณ 7 เดือนถูกห่อด้วยผ้าอ้อมสีขาวยัดใส่อยู่ในกล่องเครื่องไดร์เป่าผม วางอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวโดยมีนายสหรัฐ  รถสพงษ์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กจุดธูปไหว้ศพ

จากการสอบสวนนางนันทวรรณ รถสพงษ์ อายุ 25 ปี พี่สาวของนายสหรัฐ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังนอนดูทีวีอยู่ในบ้าน นางอารีรัช คดโพสี อายุ 21 ปี ได้มาตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน ตนจึงออกมาดู นางอารีรัช จึงได้ยื่นกล่องดังกล่าวให้พร้อมทั้งบอกตนว่าฝากให้นายสหรัฐ น้องชายของตนด้วย ก่อนที่จะเดินขึ้นรถแท็กซี่ออกไป หลังจากที่นางอารีรัช ออกไปแล้วตนจึงได้เปิดกล่องดังกล่าวดู ได้พบว่าภายในกล่องดังกล่าวมีผ้าอ้อมอยู่แต่มีน้ำหนัก ตนจึงได้ใช้มือคลำดูและมีความรู้สึกว่าใต้ผ้าดังกล่าวมีวัตถุลักษณ์คล้ายศีรษะเด็ก  ด้วยความตกใจจึงได้เรียกแฟนให้ออกมาช่วยดึงผ้าอ้อมออกมาดูจึงได้พบว่าใต้ผ้าอ้อมในกล่องดังกล่าวมีศพเด็กทารกอยู่  จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนายสหรัฐ ให้การว่า ตนได้คบหากับนางอารีรัช  ซึ่งทำงานอยู่ฝ่ายบัญชีอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งนางอารีรัช ตั้งท้องได้ประมาณ 5-6 เดือน นางอารีรัช ได้โทรศัพท์มามาบอกตนว่าจะเอาเด็กออก ตนไม่ยอมและขอร้องให้เก็บเด็กเอาไว้เพราะตนอยากมีลูก  จนกระทั้งในวันนี้ในระหว่างที่ตนออกไปหางานทำ นางอารีรัช ได้ส่งข้อความมาว่า “ นอนโรงพยาบาลอยู่ 2 เดือนเราตกเลือด และรู้ตัวดีว่าคงไม่รอด อยากคุยครั้งสุดท้าย เราอโหสิกรรมให้เธอนะ กับสิ่งที่เธอทำกับเรา ดูแลตัวเองด้วย ” และส่งข้อความมาอีกว่า “ ฝากลูกไว้ให้แล้วนะเดฟ  ”  เจ้าหน้าที่จึงเก็บข้อความดังกล่าวเอาไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านางอารีรัช อาจจะแค้นและคิดว่านายสหรัฐ ไปมีหญิงอื่น จึงอาจกินยาขับจนแท้งลูก ก่อนที่จะเอาศพห่อด้วยผ้าอ้อมยัดใส่กล่องและนั่งรถแท็กซี่มาส่งให้ที่บ้านนายสหรัฐ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พยายามโทรศัพท์ติดต่อนางอารีรัช หลายครั้งแต่ไม่มีใครรับสาย  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวนางอารีรัช มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป