"จิ๊กโก๋ โรตี" โรตีสายไหมฉบับ'เด็กแนว

เรื่องและภาพ นรินทร์ ใจหวัง

ขึ้นชื่อว่า "โรตีสายไหม" วิธีการกินย่อมไม่ธรรมดา ด้วยการนำใยน้ำตาลสีสันฟรุ้งฟริ้งมาห่อเข้ากับแป้งนุ่มๆแล้วยัดเข้าปากจึงจะถือว่าครบสูตร แม้ขนมหวานทานเล่นชนิดนี้จะมีลูกเล่นแพรวพราวอยู่ในตัว ทว่าคนไทยสมัยก่อนก็ยังสรรหาการละเล่นมาประกอบการกิน นั่นคือ กดแป้นตัวเลขเสี่ยงทาย เพื่อดึงดูดใจลูกค้า จนกลายเป็นความทรงจำประทับใจยากจะลืม

มอเตอร์ไซค์คลาสสิกยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซี 70 สีเขียว ต่อเติมด้วยไม้อัดขึ้นรูปง่ายๆให้กลายเป็นชั้นวางกระปุกสายไหมสีสดสวย และแผ่นรองนวดแป้ง พร้อมแป้นกดเสี่ยงทาย จอดเด่นหราอยู่บริเวณทางเข้าตลาดรถไฟศรีนครินทร์ ใกล้กันมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังห่อโรตีสายไหม รายล้อมด้วยลูกค้าวัยรุ่นที่ลุ้นระทึกไปเข็มบนแป้นว่าจะชี้ไปที่ตัวเลขจำนวนใด เพราะนั่นเท่ากับจำนวนโรตีสายไหมที่จะได้รับ แลกกับการหยอดเหรียญเพียง 10 บาทเท่านั้น

“ตอนที่แม่ซื้อฮอนด้า ซี 70 ให้เป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกในชีวิต ผมก็ปรึกษากับพ่อว่าจะหาอะไรทำที่เหมาะกับวัยรุ่นอย่างเราดี ที่สำคัญต้องไม่เหมือนใครด้วย บังเอิญผมชอบกินโรตีสายไหมอยู่แล้วด้วยเลยคิดกันว่าเอาร้านโรตีสายไหมที่มันมีหยอดเหรียญเสี่ยงทายนี่แหละ เพราะเดี๋ยวนี้มันหาเล่นยากแล้ว”

เต้-อดิศร ไม้งาม หนุ่มวัย 23 ปี เจ้าของร้าน "จิ๊กโก๋ โรตี" ผู้ปลุกความทรงจำวัยเด็กของใครหลายคนให้กลับมาโลดเเล่นอีกครั้ง อธิบายที่มาของธุรกิจน่าสนใจของเขา ก่อนจะก้มหน้าจับเส้นสายไหมที่วางเรียงบนชั้นมาใส่แป้งม้วนเป็นวงกลม ส่งถึงมือลูกค้าที่ยืนรอด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข

“ลูกค้าไม่ได้มีแต่เด็กๆนะครับ เคยมีคุณตาคุณยายจูงมือกันมาเล่น เล่นไปยิ้มไป แกบอกว่าสมัยหาไม่ได้ง่ายๆแล้วนะ บางคนควงคู่มากับแฟนก็จะถามกันว่าตัวเองจำได้รึป่าวที่เราเคยเล่นตอนเด็กๆไง แล้วก็แวะเล่น พอเราเห็นลูกค้าซื้อของเราก็ยิ้มได้แล้ว มีความสุขนะครับที่ได้เอามาให้เด็กๆและผู้ใหญ่ที่อาจไม่มีโอกาสได้เห็นให้กลับมาสัมผัสอีกครั้งที่ตลาดรถไฟ

ชื่อจิ๊กโก๋ โรตี มาจากเหตุผลที่ว่าซอกเล็กๆด้านหลังร้านเป็นที่รวบรวมเพื่อนฝูงเหล่าจิ๊กโก๋ผู้ชื่นชอบการสักลาย ท่าทางห้าวๆ ทำให้ถูกมองว่าเป็นจิ๊กโก๋ ซึ่งต่อมาก็กลายมาเป็นชื่อร้านในที่สุด"

ผ่านไปเพียงปีเศษ อดิศรยังต้องทำงานประจำควบคู่ไปด้วย ทว่าทุกเย็นวันพฤหัสจนถึงวันอาทิตย์ ถือเป็นช่วงเวลาที่จิ๊กโก๋ โรตีจะออกมาให้บริการแบบนัน-สต็อป เรื่องที่น่ายินดียิ่งคือไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จิ๊กโก๋ โรตีเพิ่งขยายสาขาเพิ่มอีกแห่งหนึ่งที่ตลาดนัดรถไฟรัชดาภิเษก และอนาคตใกล้ เขาตั้งใจจะทำให้จิ๊กโก๋ โรตี เป็นแบรนด์ที่รวบรวมขนมงานวัดโบราณทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน

“ผมจะขยับขยายไปอีก โดยรับงานอีเว้นท์ รวบรวมของโบราณ การละเล่นเก่า ๆ อย่างไอติมปั่น น้ำตาลปั้น ป็อบคอร์น ข้าวเกรียบว้าว ขนมโบราณหายาก ภายใต้ชื่อจิ๊กโก๋ โรตี ตอนนี้คนพร้อมแล้ว ก็ได้พรรคพวกเพื่อนฝูงน้องนุ่งนั่นแหละครับมาช่วยกัน"เต้ผายมือไปยังแก๊งเด็กหนุ่มที่พร้อมใจกันสวมเสื้อยืดติดโลโก้จิ๊กโก๋ โรตี ยืนเรียงรายอยู่เบื้องหลัง

“ร้านเรามีมีแป้งให้เลือก 3 รสต่อวัน เช่น แป้งแครอทผสมเนื้อแครอท แป้งฟักทองหอม นุ่มนิ่ม แป้งใบเตยกับเผือกก็หอมมากครับ ส่วนไหมก็มีหลายรสชาติ เช่น สตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ องุ่น กล้วย ส้ม โกโก้ ราคาก็ถือว่าแพงกว่าโรตีสายไหมทั่วไป เหตุผลเพราะเราเลือกมาจากแหล่งคุณภาพ ผมอยากให้ลูกค้าได้ทานสายไหมอร่อยจริงๆ มาที่นี่คุณจะได้อะไรมากกว่าสายไหมธรรมดาแน่นอนครับ

ถึงธุรกิจจะไม่ได้ขายดีมาก แต่ก็อยู่เป็นสีสันไป  เน้นบริการด้วยใจ ไม่ว่าคุณจะยียวนเราแค่ไหน แต่เราบริการด้วยใจจริง ดังนั้นลูกค้าเก่าจะติดใจในรสชาติของไหมที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้  บางคนก็ชอบการบริการ มีคนพันให้ มีถาดรอง พนักงานใส่ถุงมือ รับรองสะอาดไร้กังวลครับ”

เจ้าของกิจการหนุ่มยืนยันว่า ไม่ได้เคร่งเครียดกับรายได้มากนัก คิดว่าอย่างน้อยก็รับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ อีกทั้งยังอยากเป็นตัวอย่างที่ดีของวัยรุ่นให้รู้จักทำมาหากินด้วย

"ผมพยายามจะเป็นตัวอย่างของน้องๆวัยรุ่นให้เขาเห็นว่าถึงเราจะทำอะไรมา แต่เวลาเรียนเราเรียนจริง ทำงานคือทำงาน สังคมสมัยนี้มักจะมองว่าเด็กอย่างพวกผม ดูไม่น่าคบ ดูน่ากลัว  แต่พวกผมมีการศึกษา มีงานทำ ที่สำคัญไม่ยุ่งกับสิ่งเสพติด ตั้งใจทำมาหากินกันทุกคนครับ"พ่อค้าโรตีสายไหมรูปหล่อยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ

เห็นวัยรุ่นไทยมีไอเดียดี รู้จักทำมาหากินแบบนี้ ขอปรบมือให้ดังๆเลย