posttoday

ชาวพังงาค้านโค่นต้นนกยูงริมถนนตะกั่วป่า

28 มกราคม 2558

พังงา-ชาวบ้านคัดค้านหมดการทางคุระบุรีตัดต้นนกยูงอายุกว่า 100 ปี 2 ข้างทางถนนตะกั่วป่าหวั่นทำลายการท่องเที่ยว

พังงา-ชาวบ้านคัดค้านหมดการทางคุระบุรีตัดต้นนกยูงอายุกว่า 100 ปี 2 ข้างทางถนนตะกั่วป่าหวั่นทำลายการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ประชาชนชาวอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ร่วมตัวคัดค้าหมวดการทางคุระบุรี ตัดต้นนกยูงอายุกว่า 100 ปี 2 ข้างบริเวณถนนสาย 401 อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มุ่งหน้า จ.สุราษฎร์ธานี ช่วง กม.7-8 บ้านควนปัก อ.ตะกั่วป่า เสียหายไปแล้วจำนวน 12 ต้น ทำให้ประชาชนหวั่นว่าการตัดต้นนกยูงครั้งนี้จะทำลายการท่องเที่ยวของอ.ตะกั่วป่าเสียหายเพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมถ่ายรูปต้นไม้ช่วงออกดอกเก็บไว้เป็นที่ระลึกจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอไปแล้ว

น.ส.ชมพูนุช ประเสริฐพรพงศ์ ชาวอ.ตะกั่วป่า กล่าวว่า ต้นไม้ดังกล่าวอยู่คู่กับอ.ตะกั่วป่านานนับ 100 ปี จนกระทั่งเป็นอุโมงต้นหางนกยูงที่มีความยาวกว่า 1 กม.ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาต้องแวะถ่ายรูปอยู่เป็นประจำ บ่อยครั้งมีการใช้เป็นฉากประกอบในการถ่ายรูปแต่งงาน ถือเป็นแลนด์มาร์คของอ.ตะกั่วป่า และ ถนนสายดังกล่าวไปเสียแล้ว

สำหรับอุโมงต้นหางนกยูงนั้นจะมีความสวยงามในแต่ละฤดูแตกต่างกันไป ทั้งช่วงที่ออกดอก ผลัดใบ และเขียวชะอุ่ม จึงอยากให้ภาครัฐหาผู้รับผิดชอบก่อนจะหาทางดำเนินการแก้ไขให้กลับคืนสภาพเดิม

ด้านนายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ได้สั่งการให้หยุดตัดต้นไม้ดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งรายงานนายประยูร รัตนเสนีย์ ผวจ.พังงาทราบ เพื่อให้ผู้รับผิดชอบได้ทำหนังสือชี้แจงต่อไป

นายเรวัตร เสือเดช หัวหน้าหมวดการทางคุระบุรี ผู้รับผิดชอบถนนสาย 401 กล่าวว่า เป็นผู้ออกคำสั่งให้ทำการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาในถนน และ อนุญาตให้ทำการตัดต้นที่มีสภาพใกล้ตาย และเอนไปในถนนออกให้หมด หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก สภ.ตลาดใหญ่ อ.ตะกั่วป่า ว่า ทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดี ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวได้ไปราชการนอกพื้นที่ ไม่สามารถเข้าควบคุมงานเองได้ จึงอาจเกิดการเข้าใจผิดในคำสั่ง ทำให้เกิดเหตุข้างต้นขึ้น