posttoday

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่

22 มกราคม 2558

กทมเนรมิตตลาดน้ำวิถีไทยคลองผดุงกรุงเกษม 14 ก.พ. โชว์สินค้าไทยคุณภาพสากล

โดย... นิติพันธุ์ สุขอรุณ

ผลจากการต่อยอดตลาดขายกล้วยไม้บนถนนลูกหลวงบริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ผุดไอเดียต้องการสร้างตลาดน้ำเพื่อสะท้อนภาพความเป็นไทยให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นที่มาของโครงการ “ตลาดน้ำวิถีไทย” จัดขึ้นบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว แสดงวิถีชีวิตแบบไทยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยการนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ของความเป็นคลองผดุงกรุงเกษม มาเดินเรื่องสร้างบรรยากาศโบราณกลางกรุง

ทันทีที่แนวความคิดถูกสั่งการลงมา อรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัดกรุเทพมหานคร (กทม.) เดินหน้าเรียกประชุมหน่วยงานในสังกัด กทม.ที่เกี่ยวข้องทันที อาทิ สำนักงานเขตดุสิต สำนักงานเขตพระนคร สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ร่วมหารือเพื่อวางแผนงาน จัดให้มีการนำสินค้าให้ยิ่งใหญ่สมกับความคาดหวังของนายกรัฐมนตรี

“การจัดงานในครั้งนี้ ขอให้คัดสรรสินค้าระดับแบงคอกแบรนด์สินค้าสู่สากล มาร่วมจัดงานที่นี่ก่อน แม้ว่าจะมีกำหนดออกงานในที่อื่นอยู่ก่อน เพราะครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่ สินค้าดาวน้อยรองลงมาขอให้สลับไปจัดงานที่เขตต่างๆ อยากให้นำของดีอาหารอร่อยของแต่ละเขตมาจัดวาง ซึ่งต้องควบคุมเรื่องราคาและความสะอาดอนามัย ส่วนงบประมาณต้องใช้เท่าไหร่ แจ้งมาได้เลย ” รองปลัดกทม. กล่าว

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่

ทั้งนี้ รูปแบบการจัดงาน ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกทม. เปิดเผยว่า โครงการ “ตลาดน้ำวิถีไทยคลองผดุงกรุงเกษม” จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12ก.พ.– 1 มี.ค.58 เวลา 11.00–19.00น. ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานอรทัยถนนลูกหลวง ถึงบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีกิจกรรมในงานช่วงวันจันทร์–ศุกร์ เน้นการจำหน่ายสินค้าตลาดบกบริเวณฝั่งทางเท้าถนนกรุงเกษม(ด้านริมคลอง) ส่วนในวันเสาร์–อาทิตย์ จะเพิ่มการจำหน่ายสินค้าตลาดน้ำและการแสดงพิเศษต่างๆเช่น การแข่งขันพายเรือประเภทสนุกสนานการละเล่นท้องถิ่นล่องเรือชมคลองผดุงกรุงเกษมย่านเทเวศน์–หัวลำโพง

นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการและเสวนาทางวิชาการหัวข้อ “วิถีไทยกับสายน้ำ” การสาธิตและแสดงผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอันทรงคุณค่าโดยรอบพื้นที่การจัดงานและกิจกรรมสันทนาการในพื้นที่เช่น เวทีการแสดงดนตรีและวัฒนธรรมซุ้มถ่ายรูปที่ระลึกการแสดงริมทางภายในบริเวณงาน

“กทม.ได้จัดเรือรับส่งประชาชนจากหัวลำโพง มายังบริเวณงานอีกทั้งจัดเรือท่องเที่ยวในคลองผดุงกรุงเกษมขนาด40 ที่นั่งพร้อมจัดมัคคุเทศก์ไว้บริการประชาชนวันละ2 เที่ยวได้แก่ เวลา 16.00น. และ17.00 น. ทั้งนี้กรุงเทพฯขอเชิญชวนประชาชนที่มาร่วมงานได้แต่งกายด้วยชุดย้อนยุคเพื่อเป็นการส่งเสริมและแสดงออกถึงการท่องเที่ยวตามแบบวิถีไทยโดยจะมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมด้วย” ตรีดาว กล่าว

ด้าน วิสุทธ์ ธรรมวิริยะวงศ์ ผู้อำนวยการเขตดุสิต กล่าวว่า มาตรการความปลอดภัย ได้ประสานงานกับสถานีดับเพลิงภูเขาทอง และสถานีดับเพลิงสามเสน เตรียมอุปกรณ์แสงไปส่องสว่างยามค่ำคืน พร้อมด้วยรถดับเพลิงรับมือเหตุฉุกเฉินทันที อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางน้ำ ประจำทุ่นลอยน้ำเป็นระยะ รวมถึงเรือตรวจการ ส่วนความปลอดภัยทางบกได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จากม.พัน4 ,ร.พัน1รอ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิง และสน.ดุสิต ตั้งเป็นกองอำนวยการร่วม โดยจุดนี้จะมีรถพยาบาลฉุกเฉินจากสำนักอนามัยเข้ามาเสริม จึงมั่นใจถึงความปลอดภัยขั้นสูงสุดได้แน่นอน

ผอ.ดุสิต กล่าวอีกว่า การเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรม จะส่งเสริมให้ผู้ที่ต้องการมาเที่ยวสามารถขึ้นเรือรับส่ง จากท่าหัวลำโพงล่องมาตามคลองผดุงฯเพื่อเข้าสู่งานที่ท่าหน้าวัดโสมมนัสวรวิหาร ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งคลองสักครั้งในชีวิต ส่วนสถานที่จอดรถส่วนตัว สามารถจอดไปตลอดแนวของถนนลูกหลวง ถนนพระราม5ช่วงปลาย ถนนพิณุโลก ถนนราชดำเนินนอกฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะมีรถรับส่งของบริษัทเอกชนให้บริการเข้ามาที่เชิงสะพานอรทัย

สำหรับของดีที่เขตดุสิตนำมาเสนอคือโครงการส่วนพระองค์ จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน, โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี , มูลนิธิพระดาบส จำหน่ายงานฝีมือของนักเรียน เช่น ไม้เท้าแบบขุนนางโบราณที่มีความสวยงาม อีกทั้งมีการจัดงานคู่สมรสวิถีไทย ที่เชิงสะพานอรทัย สามารถจดทะเบียนสมรสได้ในวันที่ 14ก.พ.วันเดียวเท่านั้น

ด้านการก่อสร้างทางเดินริมน้ำ (ทุ่นลอยน้ำ) ดำเนินการโดยสำนักการโยธา กทม. ก่อสร้างทางเดินริมน้ำเพื่อให้ประชาชนได้ลงไปเดินเลือกซื้อสินค้าจากเรือพายขนาดเล็กจำนวนกว่า 40 ลำได้สะดวก โดยสร้างให้ทางเดินที่อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลตลอดแนวคลองผดุงฯมีความยาว 150 เมตร กว้าง2เมตร และทางเดินริมน้ำฝั่งติดกับทำเนียบรัฐบาล ความกว้าง2เมตร ยาว50เมตร ซึ่งก่อสร้างให้มีความปลอดภัยสูงสุด

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่

คลองผดุงฯแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาเริ่มขุดขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ขุดเมื่อ พ.ศ. 2394 เนื่องจากทรงพิจารณาเห็นว่าบ้านเมืองเจริญขึ้นจึงควรขยับขยายพระนครออกไป โดยเริ่มขุดจากปากคลองริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง) ย่านเทเวศร์ มีแนวขนานไปกับคลองคูเมืองเดิม ผ่านย่านหัวลำโพง ตัดผ่านคลองมหานาคไปทะลุแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้านหนึ่งบริเวณวัดแก้วแจ่มฟ้า สี่พระยา ภายหลังการขุดแล้วเสร็จการข้าและการขนส่งตลอดแนวคลองคึกคักขึ้นทันที

เมื่อประเทศเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินทหารญี่ปุ่นระดมทิ้งระเบิดใส่อย่างหนัก สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชนและอาคารหน่วยงานราชการต่างๆพังยับเยิน หลายต่อหลายครั้งที่การค้าขายในคลองต้องอาศัยแสงไฟริบหรี่ลอดผ่านรูเจาะบนกระป๋องที่มีหลอดไฟอยู่ภายใน เหลือเพียงแสงสว่างเพียงน้อยนิดไม่ให้สว่างจนไปสะดุดสายตาของทหารญี่ปุ่นเข้า ยามใดที่เสียงหวอเตือนหลบภัย ผู้คนในย่านนี้ต่างตกใจหวาดกลัวแรงระเบิด บ้างก็กระโดดลงไปหลบในคลองผดุงฯ

กระทั่งผ่านมาหลายยุคหลายสมัยจนถึงปัจจุบัน บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้งจากสถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงถึงขีดสุด เกิดการชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลยาวนาน และหนึ่งในทำเลที่ผู้ชุมนุมเลือกใช้เป็นที่หมายปักหลักนั่นก็คือ ตลอดแนวริมคลองผดุงฯ นับได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งก็ว่าได้

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่

 

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่

 

ตลาดน้ำคลองผดุงฯฝันที่เป็นจริงของบิ๊กตู่