posttoday

สำนักพุทธศาสนาชี้"เกษมตุ๋ยลูกศิษย์"ปาราชิกแล้ว

17 มกราคม 2558

เพชรบูรณ์-สำนักพุทธศาสนาชี้"เกษมตุ๋ยลูกศิษย์"ต้องปาราชิกแล้ว ลูกศิษย์ใกล้ชิดยันไม่ได้จัดฉาก

เพชรบูรณ์-สำนักพุทธศาสนาชี้"เกษมตุ๋ยลูกศิษย์"ต้องปาราชิกแล้ว ลูกศิษย์ใกล้ชิดยันไม่ได้จัดฉาก
 
เมื่อวันที่17ม.ค. นายธัญเทพ หมื่นยุทธ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนา จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รายงานเรื่องที่พระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก อ.น้ำหนาวยอมรับเสพเมถุนกับลูกศิษย์ใกล้ชิดให้พระราชปริยัติบัณฑิต เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับทราบแล้ว และอยู่ระหว่างหารือว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร และได้รับแจ้งด้วยว่า พระเกษมขาดจากความเป็นพระแล้วเพราะไม่ได้กระทำครั้งเดียว จะมาอ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัวคงไม่ใช่ เมื่อพระเกษมยอมรับก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว ไม่เช่นนั้นคณะสงฆ์คงต้องเข้าไปดำเนินการ เรื่องนี้เป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่ายจึงไม่มีความผิดด้านกฎหมายบ้านเมือง แต่มีความผิดในทางพระธรรมวินัย ฉะนั้นหากจะเข้าไปสอบสวนทางเจ้าคณะจังหวัด คงจะมีการสั่งการและแต่งตั้งให้พระผู้ปกครองในท้องที่ไปดำเนินการตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นจะมีการโต้แย้งกันออกมาอีกในภายหลัง
 
“อยากฝากบรรดาลูกศิษย์หากหลักฐานชัดเจนแบบนี้แล้ว ขออย่าไปงมงายหรือเชื่อถือกับตัวบุคคลมากนัก ให้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา”นายธัญเทพกล่าว
 
ส่วนบรรยากาศภายในสำนักสงฆ์ป่าสามแยกล่าสุด นายเกษม หรืออดีตพระเกษม อาจิณณสีโล ยังคงเข้าร่วมสังฆกรรมกับพระลูกวัดตามปกติ และร่วมเข้าร่วมวงฉันท์อาหารกับพระลูกวัดอีก 4 รูปตามปกติ ซึ่งก่อนที่พระเกษมจะเข้าไปร่วมได้สอบถามพระภิกษุจะให้ร่วมฉันท์อาหารได้หรือไม่ ซึ่งพระภิกษุดังกล่าวต่างตอบรับมีความยินดี หลังจากนั้นพระเกษมยังเปิดเสวนากับกลุ่มลูกศิษย์ พร้อมมีการถามตอบข้อสงสัยถึงการเสพเมถุนกับทางเหล่าลูกศิษย์
 
นายเกษม หรือพระเกษม ยังกล่าวท้าทายให้พระเถระหรือคณะสงฆ์มาสอบสวนว่า เมื่อประกาศยอมรับว่าทำผิดจริงแบบนี้จริง ให้ตั้งคณะสงฆ์มาสอบได้เลยให้เอาพระธรรมวินัยมาเปิดกันว่าการปาราชิกเป็นอย่างงัยแต่ตั้งเงื่อนไขให้พระที่จะมาสอบสวนต้องมีความบริสุทธ์ และเป็นพระอภิญญาสงฆ์เท่านั้น

ด้านนายศิวนาถ แสนแก้ว ผู้จัดการส่วนตัวพระเกษมและลูกศิษย์ใกล้ชิด กล่าวว่า หลังการออกมายอมรับของนายเกษม หรือพระเกษมคณะลูกศิษย์มีความเห็นแตกต่างกันหลายกลุ่ม กำลังหาข้อมูลเรื่องปาราชิกและหาข้อมูลหากบรรลุธรรมสามารถทำได้หรือไม่ และก็ยอมรับเป็นเรื่องจริงที่ว่ามีพระใกล้ชิดแยกตัวจากนายเกษม หรือพระเกษมไปแล้วเพราะรับไม่ได้หลังรับทราบพฤติกรรม ได้สอบถามกับนายเกษม หรือพระเกษมแล้วยืนยันว่า ไม่ได้มีการจัดฉาก

ขณะที่นายสำลี นันทะญาติ หรือ “ตาฤาษี” ลูกศิษย์ใกล้ชิดพระเกษม กล่าวว่า ระหว่างการไต่สวนพระเกษมยอมรับว่ากระทำลงไปจริง แต่ทางพระภิกษุก็ยังวินิจฉัยยืนยันว่าไม่ขาดจากพระ ซึ่งพระลูกวัดก็วินิจฉัยไปตามคำให้การ จะไปวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหมือนปรักปรำ ตอนนี้หากมีการวินิจฉัยให้พระเกษมสึกท่านก็พร้อมจะสึกจะให้เป็นอะไรก็ได้
 
สำหรับปาราชิก ตามความหมายในพระธรรมวินัย คือประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภท ครุกาบัติที่เรียกว่า อาบัติปาราชิก
คำศัพท์ว่า ปาราชิก แปลว่า ยังผู้ต้องพ่าย หมายถึง ผู้ต้องพ่ายแพ้ในตัวเองที่ไม่สามารถปฏิบัติในพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ได้

ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่
เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)
ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ได้ราคา 5 มาสก(5 มาสกเท่ากับ 1 บาท) พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) แสวงหาและใช้เครื่องมือประหารและจ้างวานฆ่าคน หรือพูดพรรณาคุณแห่งความตายให้คนนั้นๆยินดีที่จะตาย(โดยมีเจตนาหวังให้ตาย) กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

อาบัติปาราชิกทั้ง 4 นี้เป็นอาบัติหนักที่เรียกว่า อเตกิจฉา คือไม่สามารถแก้ไขได้เลย