posttoday

ร้อง"ปวีณา"ถูกหลอกขายบริการเกาหลีใต้

25 มิถุนายน 2557

ปทุมธานี-สาวไทยเข้าร้องทุกข์"มูลนิธิปวีณา"ถูกหลอกทำงานนวดแผนโบราณแต่ถูกบังคับค้าประเวณีเกาหลีใต้

ปทุมธานี-สาวไทยเข้าร้องทุกข์"มูลนิธิปวีณา"ถูกหลอกทำงานนวดแผนโบราณแต่ถูกบังคับค้าประเวณีเกาหลีใต้

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เวลา 10.00 น.น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) ชาวจ.นครสวรรค์  และ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ชาวจ.บุรีรัมย์  ได้เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับ นางปวีณา  หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่พวกเธอสามารถหนีออกมาได้ บางรายก็ให้ทางบ้านส่งเงินไปไถ่ตัวกลับมาและยังมีเพื่อนคนไทยอีก 2 คน ต้องการขอความช่วยเหลือ กลับเมืองไทย น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) และ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) น.ส.บี (นามสมติ)จึงได้มาขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือเพื่อนคนไทยอีก 2 คน ที่ต้องการกลับแต่ไม่มีเงินไถ่ตัว

น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) กล่าวว่า ก่อนที่จะตัดสินใจไปทำงานนวดแผนโบราณ ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีอาชีพ ค้าขาย อาหารตามสั่ง  แต่รายได้ไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว จึงไปกู้เงินมาหมุนในครอบครัว ทำให้เป็นหนี้สินเยอะขึ้นจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับ นางนก ซึ่งมีอาชีพ เป็นหมอนวดแผนโบราณ และเธอก็รู้จักกับ นางนก มานานแล้วจึงได้ชักชวนให้ไปทำงานนวดแผนโบราญที่ประเทศเกาหลีใต้ อ้างว่าได้เงินดี และมีเพื่อนของ นางนก ทำอยู่ที่ร้านนั้น และไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน แต่จะเสียแค่ค่าเดินเรื่องและค่าทัวร์ เพียงรายละ 5,000 บาท จากนั้นจึงกลับมาคิดดู เพราะเป็นหนี้ค่อนข้างเยอะ ประมาณ 2 อาทิตย์ จึงตัดสินใจติดต่อกับ นางนก ว่าจะไปทำงานนวดแผนโบราณที่เกาหลีใต้ จากนั้นนางนกได้ประสานงานให้พร้อมให้รอรับโทรศัพท์จากนางน้อง หรือ นางหนูคิด เป็นผู้จัดทำทัวร์ไปเกาหลีใต้ ซึ่งหลายวันต่อมาจึงได้เดินทางไปเกาหลีใต้

น.ส.กุ้ง(นามสมมุติ) กล่าวว่า พอไปถึงสนามบินเกาหลีใต้ ก็มีผู้ชายเกาหลีใต้มารอรับ และพาไปที่ห้องพักในเมืองกังนัม และมีนางเล็ก หรือ อีกนามที่ใช้ชื่อเรียกในเกาหลีว่า โซยอง  แจ้งค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางครั้งนี้แต่ละคนว่าติดหนี้เธอ คนละ 45,000 บาท  จากนี้นให้พวกเธอสาธิตการนวดพร้อมกับถ่ายรูปไว้แล้วส่งไปทั่วร้านนวดในเกาหลีใต้ เพื่อรอทางร้านในแต่ละแห่งส่งใบตอบรับมาว่าใครที่สาธิตการนวดผ่าน จากนั้นนางเล็กก็จะนำไปส่งตามร้านต่างๆแต่เพื่อนๆพวกเธอบอกว่ากลับถูกบังคับให้ค้าประเพณีแทน

น.ส.กุ้ง(นามสมติ) กล่าวอีกว่า เธอ และ น.ส. แก้ว (นามสมมุติ) แม้ว่าสาธิตการนวดผ่าน แต่หน้าตาไม่ผ่าน ทำให้ต้องอยู่รอไปเลื่อยๆแถมยังถูกกักขังไว้แต่ในห้อง และมีคนคอยคุมอยู่ตลอดเวลา ส่วนห้องที่พวกเธอถูกขังอยู่นั้นก็จะถูกล็อกตายไม่สามารถออกไปไหนได้ พวกเธอทนอยู่กันไม่ไหวจึงได้ขอกลับไทย แต่นางเล็กแจ้งว่าจะต้องหาเงินมาไถ่ตัวไปคนละ 60,000 บาท ถึงจะส่งตัวกลับไทยได้  ซึ่งแต่ละคนทางบ้านก็มีฐานะที่ยากจนอยู่แล้ว ไม่มีเงินค่าไถ่ตัว พอได้จังหวะจึงหนีออกมาโชคดีที่ได้พบกับคนไทยด้วยกันจึงได้เล่าเรื่องให้ฟังและขอความช่วยเหลือซึ่งก็ได้รับคำแนะนำให้ไปติดต่อสถานฑูตไทยในประเทศเกาหลีใต้ช่วยเหลือจึงได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงพากันมาร้องทุกข์กับทางมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอีกทั้งขอให้ช่วยเหลือเพื่อนคนไทยอีก 2 คนกลับประเทศไทย