posttoday

ประจวบฯแล้งจัดชาวไร่สับปะรดขอฝนเทียม

11 มิถุนายน 2557

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวไร่สับปะรดร้องขอฝนหลวงช่วยหากไม่ตก1-2 เดือนนี้เสียหายทั้งหมดแน่

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวไร่สับปะรดร้องขอฝนหลวงช่วยหากไม่ตก1-2 เดือนนี้เสียหายทั้งหมดแน่

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.57 สภาพอากาศที่ร้อนจัดและฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือนส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่สับปะรดในพื้นที่ ต้นสับปะรดแห้งเหี่ยวจนยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผลผลิตที่ได้ในตอนนี้ก็ไม่ได้ขนาดตามความต้องการของตลาด เนื่องจากสับปะรดให้ลูกขนาดเล็ก แคระแกน จึงสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรจำนวนมาเพราะต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งการซื้อหน่อ ยากำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยราคาแพง 
 
นายถาวร เดชสำราญ  ชาวต.วังก์พง อ.ปราณบุรี  กล่าวว่า ทำไร่สับปะรดใน อ.ปราณบุรี มานานหลายปี แต่ปีนี้สภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่องหลายเดือน ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้ต้นสับปะรดที่ปลูกไว้แห้ง ใบเหลือง ต้นอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อผลผลิตเพราะลูกสับปะรดออกน้อย ลูกเล็กแคระแกรน ไม่ได้ขนาด ตัดส่งขายโรงงานสับปะรดกระป๋องไม่ได้ เมื่อผลผลิตลดลงรายได้ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มิหนำซ้ำยังเพิ่มต้นทุนการผลิตให้มากขึ้น เพราะจะต้องเพิ่มปุ๋ยบำรุงต้นสับปะรดให้มากขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขได้ ทำได้เพียงประคับประคองด้วยการตัดแต่งต้นที่ยังพอใช้ได้ ตัดใบหรือส่วนที่ตายทิ้งไป และเอาต้นที่ดีไว้ทำพันธุ์สำหรับปลูกทดแทนใหม่ในแปลงที่ประสบปัญหา
 
ด้านนายบุญสม พิมพ์สว่าง ชาวไร่สับปะรดอีกราย กล่าวว่า อากาศแห้งแล้งจัดจนส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะแปลงสับปะรดแห้งและตายในบางพื้นที่ เกษตรกรไม่สามารถทำอะไรได้มาก คงต้องรอฝนตกลงมาเพียงอย่างเดียวซึ่งระหว่างที่รอฝนตามฤดูกาล อยากให้มีการทำฝนหลวง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ ลดความร้อนที่สะสมในพื้นดินเพื่อให้พืชผลการเกษตรสามารถออกผลผลิตที่ได้ตามความต้องการของตลาด

ทั้งนี้ยอมรับว่าหากยังไม่มีฝนตกลงมาภายใน  1-2 เดือนนี้ ต้นสับปะรดที่ปลูกไว้อาจจะเสียหายทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ก็ทราบจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ล้วนประสบปัญญาเดียวกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อโรงงานผู้แปรรูปผลผลิตตามไปด้วยเพราะไม่มีผลผลิตป้อนโรงงาน