ช้างป่าหนีแล้งบุกรพ.หาอาหาร

กาญจนบุรี-ช้างป่าสลักพระหนีแล้งบุกโรงพยาบาลท่ากระดานหาอาหารกิน

นายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะได้ร่วมออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บ้านองหลุ หมู่ 3 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ ตามโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี (พอ.สว.) ได้รับแจ้งจากนพ.จิรพัทร พุ่มฉายา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่ากระดาน ว่า ด้พบกับช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เดินออกมานอกเขตพื้นที่ป่าเพื่อมาหาอาหาร และได้เดินอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาล จากนั้นได้เดินชนพังกำแพงรั้วคอนกรีตของโรงพยาบาลจนได้รับความเสียหาย และเดินกลับเข้าไปในป่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นต่างมองเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากช้างตัวดังกล่าวเป็นช้าง พลายสีดอ เพศผู้ อายุกว่า 25 ปี ตาข้างขวาบอด หางกุด ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่เดินออกมาหากินในพื้นที่ รพ.ท่ากระดาน และพื้นที่ใกล้เคียง ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันทุกปี
 
ทั้งนี้ช้างตัวดังกล่าวเคยเข้ามาในบริเวณโรงพยาบาลนี้แล้วหลายครั้ง เนื่องจากโรงพยาบาลมีพื้นที่ติดกับเขตฯ สลักพระ ช้างป่าจะเข้ามาทางประตูหน้าโรงพยาบาล เพื่อเข้ามาหากินผลไม้ในโรงพยาบาล เช่น มะม่วง ขนุน และกล้วย บางครั้งจะอยู่อาศัยภายในบริเวณโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน และจะเดินไปทั่ว ทั้งเดินบนทางเดินตึกผู้ป่วยใน บ้านพักแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ และลงไปเล่นน้ำในบ่อน้ำหลังโรงพยาบาล ซึ่งมีพฤติกรรมที่คุ้นเคยผู้คน ไม่ทำร้ายผู้ใด แต่ตอนเดินออกจากโรงพยาบาลจะเดินพังรั้วคอนกรีตของโรงพยาบาลทุกครั้ง โดยทางโรงพยาบาลต้องใช้งบประมาณของโรงพยาบาลทำการซ่อมแซมทุกครั้งๆ ละนับแสนบาท ครั้งนี้ก็พังในจุดเดิมที่เพิ่งจะซ่อมแซมไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าช้างตัวดังกล่าวน่าจะเข้ามาตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึก แต่ไม่มีใครพบเห็น และเนื่องจากผลไม้ยังไม่ออกผลเท่าที่ควร ช้างป่าจึงเดินกลับเข้าป่าไป แต่เชื่อว่าจะเดินออกมาหากินอีก เบื้องต้น นายชำนาญ ทองใบ ปลัดอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ประสานไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพื่อเข้ามาดูแลแล้ว
 
ด้าน นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กล่าวว่า พื้นที่เขตรอยต่อระหว่างเขตฯ สลักพระ และ โรงพยาบาลท่ากระดาน ได้ทำการขุดคู และทำแนวรั้วไฟฟ้า แต่พบว่ามีบางช่วงของคูมีความตื้นเขิน จึงทำให้ช้างเดินออกมาจากเขตป่าได้ ซึ่งช้างป่าที่เดินออกมาก็เป็นช้างตัวเดียวกันกับที่เดินออกมาหากินทุกปี ในช่วงที่มะม่วงและผลไม้อื่นๆ กำลังออกผลผลิต เนื่องจากมีกลิ่น ซึ่งช้างสามารถสัมผัสกลิ่นได้ไวที่สุด โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าหม่องกระแทะ กับหน่วยพิทักษ์ป่าแก่งแคบ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลท่ากระดานจะคอยเฝ้าระวัง ได้ร่วมกำลังผลักดันและคอยดูแล และคอยไล่ต้อนช้างให้เข้าไปอยู่ในป่าตามเดิม
 
ด้าน นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มีจำนวนประชากรช้างประมาณ 270 ตัว และในแต่ละปีช่วงระหว่างปลายเดือนก.พ.-มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง ช้างป่ามักจะออกมาจากป่าเพื่อมาหากินอาหารในเขตชุมชนอยู่เป็นประจำทุกปี ยิ่งในช่วงที่มะม่วงออกผลจะมีเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ เนื่องจากมะม่วงเป็นอาหารที่ช้างโปรดปรานมากเป็นพิเศษ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามป้องกันเพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมาจากเขตป่า เช่น แนวรั้วไฟฟ้า แต่ปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขุดสระน้ำเพิ่มเติมในเขตป่า และปลูกพืชอาหารช้างเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช้างมีแหล่งน้ำ และแหล่งอาหารที่เพียงพอ