เศรษฐียุ่นใจบุญแฉแท็กซี่ไทยแย่สุดในโลก

เรื่อง โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของนายอากิฮิโระ โทมิคาว่า นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นวัย 45 ปี ที่เดินทางมาเมืองไทยทุกๆ 2 เดือน โดยจะแต่งตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่'คาเมนไรเดอร์ 1' พร้อมขี่มอเตอร์ไซค์ดัดแปลงเลียนแบบ'ไซโคลน'มอเตอร์ไซค์คู่ใจของไอ้มดเอ็กซ์ ปฏิบัติภารกิจแจกจ่ายขนมแก่เด็กๆด้อยโอกาส ไม่ว่าเด็กๆในสลัมคลองเตย เด็กขอทาน เด็กที่เก็บขยะข้างถนน แม้แต่เด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยก จนสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่พบเห็น

โดยนายอากิฮิโระได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Koki Aki เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่รักเมืองไทยมาก แต่กลับเจอเรื่องแย่ๆของคนไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"นิสัยแย่ที่สุดของแท็กซี่เมืองไทย ผมไม่อยากจะพูดนะครับ แต่ผมก็ต้องพูด แท็กซี่เมืองไทยแย่ที่สุดในโลก ผมใช้แท็กซี่บ่อยมาก ถ้าผมอยู่คนเดียว พวกเขาก็มองผมเป็นคนต่างชาติคนหนึ่ง แต่ 70% ของแท็กซี่จะโกงเงินผม แม้แต่ค่าแท็กซี่ 50 บาท“100 บาทครับ”เขาไม่กดมิเตอร์ ถ้าเงินไม่กี่บาท มันก็ไม่มีอะไร บางครั้งระยะทาง 300 บาท ก็มีคนขับแท็กซี่บางคนโกงเงิน ระยะทางจากสุขุมวิทไปสนามบิน ผมออกจากโรงแรม“พนักงานโรงแรมบอกผมว่าคุณจะจ่ายค่ารถ 500 บาท”พวกเขาแต่งเรื่องขึ้นแบบนี้เพื่อจะหลอกเอาเงิน

ครั้งล่าสุดที่ผมจะกลับญี่ปุ่น จากสะพานควายไปสนามบิน แท็กซี่จะพาผมไปอีกทางหนึ่ง ผมกลัวจะไปไม่ทันเครื่องบิน สถานการณ์เริ่มจะไม่ดี เพราะรถไม่ขยับ และเหมือนเขาจะไม่รู้ทางด้วย ผมติดอยู่ถนนสุขุมวิทที่รถติด ผมเริ่มรู้สึกโมโหตอนที่ติดอยู่สุขุมวิท“…. ผมขอลงตรงนี้”แต่เขาก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจและทำเสียง“จิ๊”เหมือนไม่พอใจ

เหตุการณ์ข้างบนเป็นประสบการณ์จริง ผมอยากให้คนไทยได้รู้เรื่องราวนี้ แท็กซี่เป็นหน้าตาของประเทศอย่างหนึ่ง ชาวต่างชาติบางคนไม่ใช้รถไฟหรือรถเมล์ เพราะสับสนเส้นทาง ชาวต่างชาติหลายคนใช้แท็กซี่จากสนามบิน คนขับแท็กซี่เกินครึ่งพยายามจะโกงค่าโดยสารชาวต่างชาติ คนขับแท็กซี่บางคนก็พยายามจะโกงค่าทางด่วนด้วย ถ้าเป็นแท็กซี่ที่มาจากสนามบินจะมีตั๋วแท็กซี่ ทีมีชื่อคนขับด้วย“…ขอตั๋วคืนด้วยครับ”คนขับแท๊กซี่พยายามจะขอตั๋วแท็กซี่สนามบินที่มีชื่อเขาอยู่จากผู้โดยสาร ผมเจอกับเหตุการณ์นี้หลายครั้แล้วถ้าเป็นคนต่างชาติที่มาเมืองไทยครั้งแรก เขาจะคิดอย่างไร“ทำไมเมืองไทยแย่แบบนี้…”

คุณคิดแบบนั้นไหมครับ เรื่องโกงเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่ บางครั้งก็มีเหตุการณ์ข่มขืน หรือปล้น ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งถูกคนขับแท็กซี่ยิง แต่ผมก็แปลกใจว่ามีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ตัวอย่างเช่น ใบขับขี่ของคนขับแท๊กซี่ในลอนดอนกว่าจะได้มายากมาก พวกเขาต้องเรียนรู้เส้นทางที่ซับซ้อนในลอนดอนทั้งหมด มันยากกว่าการเรียนมหาวิทยาลัยอีกตัวอย่าง ผมก็มีใบอนุญาตขับรถแท๊กซี่ ผมพยายามจะสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาตถึง 8 ครั้ง การสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาตในญี่ปุ่นยากมาก ปกติคนทั่วไปต้องใช้เวลาสอบ 15-16 ครั้งเพื่อให้ได้ใบอนุญาต แท๊กซี่ควรจะมีปลอดภัย ตอนนี้กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองกำลังพัฒนา แต่กรุงเทพฯ เกือบจะเหมือนโตเกียว ลอนดอน นิวยอร์ค แล้ว เมืองไทยไม่ควรสร้างภาพลักษณ์ที่แย่ต่อคนต่างชาติ ในฐานะต่างชาติที่รักเมืองไทยคนหนึ่ง ผมอยากให้เรื่องนี้มีทางแก้ไขนะครับ”

ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก ก่อนหน้านี้คาเมนไรเดอร์ผู้ใจบุญคนนี้เคยประสบเหตุถูกรถเมอร์ซีเดส เบนซ์ชนแล้วหนีมาแล้ว โดยไม่ได้รับการขอโทษแม้แต่คำเดียว นายอากิฮิโระระบายให้ฟังว่า

"เมื่อวานนี้ผมไม่ได้ไปที่ชุมชน ผมรู้สึกเสียใจมาก ไซโคลน (มอเตอร์ไซค์คู่ใจ)โดนชนท้ายตอนกำลังเดินทาง โชคดีที่ไซโคลนถลอกนิดหน่อย แต่ปัญหาคือกิริยาท่าทางของคนขับ ไม่อยากจะเชื่อว่า เขาจะขับรถหนี ผมไม่ได้บาดเจ็บอะไรและรถไซโคลนก็แค่ถลอก ผมคิดว่าตอนนั้นผมจะพูดว่า "ไม่เป็นไร" ถ้าหากเขาพูดว่า "ขอโทษ" แต่เขาขับรถหนีไป ผมเลยรู้สึกโกรธ    

ผมโชคดีที่เจอรถคันนั้นจอดอยู่ในโรงพยาบาล และรออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง ผมถามเขา "ทำไมถึงขับหนี?" แต่เขาก็ไม่พูดแม้แต่คำว่าขอโทษ พูดแค่ "จะโทรเรียกประกัน" สุดท้ายก็เสียเวลาไป 4 ชั่วโมง เขาขับรถเบนซ์ ในประเทศไทยคนขับเบนซ์ แน่นอนคือคนรวย การซื้อรถเบนซ์ต้องใช้เงินเยอะในการรักษา แต่ผมอยากจะถามพวกเขา พวกเขามีมนุษยธรรมสูงเหมือนกับรถเบนซ์ไหม อย่างน้อยก็หาคนแบบนี้ได้ยากในประเทศที่พัฒนาแล้ว

ช่วยฟังผมหน่อยนะครับ ผมไม่อยากจะเกลียดคนไทย ตอนนี้ ผมเกลียดที่จะพูดเรื่องนี้ ถ้าคุณมีทรัพย์สมบัติ คุณควรมีมนุษยธรรมสูงเหมือนกับทรัพย์สมบัติที่มี ถ้าคุณไม่เป็นแบบนั้น ก็ไม่ต่างจากสัตว์เลื้อยคลานขับรถ ในฐานนะคนต่างชาติที่รักเมืองไทย ผมรู้สึกเสียความรู้สึกมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้"

อย่างไรก็ตาม หลังข้อความเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทันที มีทั้งคนไทยที่ออกมาให้กำลังใจ รวมถึงกล่าวตำหนิพฤติกรรมที่ไม่มีน้ำใจของคนขับแท็กซี่ที่ควรได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเสียที.