ผบ.หน่วยซีลพร้อมลาออก

การโยกย้ายนายทหารกลางปี 2557 ที่มีกระแสว่า พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) จะถูกย้ายไปกินอัตราพลโทนั่งตบยุงในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ โดยเตรียมรายชื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ สร้างความไม่พอใจให้กับ พล.ร.ต.วินัย ที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้ พล.ร.ต.วินัย กล่าวว่า ขอดูก่อนว่าถูกย้ายไปตำแหน่งอะไร ถ้าถูกโยกไปให้รับตำแหน่งอื่นที่ไม่ได้ทำงานอย่างที่เคยคาดหวังไว้ อาจพิจารณาตัวเองว่าจะลาออกหรือไม่ เพราะเป็นคนชอบทำงานมากกว่าให้ไปนั่งในตำแหน่งที่ไม่ได้ทำงาน หรือใช้ความสามารถมากนัก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ ต้องตัดสินแบบรายวัน

อย่างไรก็ตาม พล.ร.ต.วินัย กล่าวว่า เรื่องการถูกย้ายเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะเห็นสมควรพิจารณาให้นั่งทำงานในตำแหน่งใด เพราะทำงานในตำแหน่งนี้มา 3 ปีแล้ว และเชื่อว่าผู้บัญชาการทหารเรือคงดูอย่างรอบคอบ อีกทั้งเป็นผู้ใหญ่มาก มีความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน และเราเป็นลูกน้อง เมื่อนายสั่งให้ทำงานก็ต้องทำ

“แต่ถ้าต้องย้ายไปทำงานที่อื่นและไม่ได้ใช้ความสามารถและมีแรงกดดันมากๆ อาจจะตัดสินใจลาออกก็ได้ ผมเป็นคนทำงาน ให้อยู่เฉยๆ คงไม่ไหว เช่น ถ้าย้ายผมไปอยู่ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม แล้วจะให้ผมทำงานอะไร จึงขอตัดสินใจแบบวันต่อวัน ลาออกหรือไม่ลาออกคงต้องว่ากันอีกที”

วันเดียวกันกลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เดินทางมายื่นหนังสือถวายฎีกาคัดค้านการโยกย้าย พล.ร.ต.วินัย ออกจากตำแหน่ง ต่อสำนักงานเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ก่อนจะเดินทางมายังกระทรวงกลาโหม เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านให้กับตัวแทนของ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม

สำหรับเนื้อหาในหนังสือที่ยื่นถวายฎีกา ระบุว่า เป็นการขอความเป็นธรรมให้กับ พล.ร.ต.วินัย ที่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนด้วยความเข้มแข็งและรักความถูกต้อง เป็นที่รักของประชาชนแต่กลับถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายการเมือง โยกย้ายออกจากตำแหน่ง ทำให้กำลังใจของข้าราชการดีๆ ต้องถดถอย

ด้าน พล.อ.นิพัทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สอบถามกับนายทหารพระธรรมนูญแล้วทราบว่าการยื่นถวายฎีกา ผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่เดือดร้อนต้องเป็นผู้ยื่นเรื่องด้วยตัวเอง ผู้ที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น จึงจะมีสิทธิยื่นถวายฎีกา ใครเดือดร้อนคนคนนั้นต้องเป็นคนยื่น

ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเรื่องความชอบ ความนิยมส่วนบุคคลก็เป็นเรื่องปกติ แต่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีในฐานะ รมว.กลาโหม ได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายและส่วนตัวที่เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมจะไม่ทำอะไรที่ผิดจากกรอบของระเบียบเด็ดขาด และขอยืนยันว่าการประชุมพิจารณาปรับแต่งตั้งครั้งนี้ ใช้เวลา 10 นาที เนื่องจากทุกเหล่าทัพได้ประชุมกันมาหมดแล้วผ่านบอร์ดการโยกย้ายของเหล่าทัพตัวเอง ไม่ว่ากองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ได้นำเสนอไปที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ถือว่าเป็นการทำตามขั้นตอน และ ผบ.สส.ได้ตรวจสอบแล้ว จึงไม่มีการแทรกแซงใดๆ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เดินทางไปเปิดอนุสาวรีย์ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร ทั้งนี้ในระหว่างการเปิดงาน พล.อ.เปรม ได้กล่าวกับ พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มาอ่านข้อความที่อนุสาวรีย์ โดยข้อความดังกล่าวเป็นคำพูดของ พล.อ.กฤษณ์ ที่ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา” ซึ่ง พล.ท.ชาญชัย กล่าวตอบว่า “ได้ครับ จะไปเชิญท่านมาอ่านดูครับ”