posttoday

ชาวนาแจ้งจับผญบ.สวมสิทธิ์จำนำข้าว

28 กุมภาพันธ์ 2557

อุบลราชธานี-ชาวนารวมตัวแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านสวมสิทธิ์จำนำข้าว

อุบลราชธานี-ชาวนารวมตัวแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านสวมสิทธิ์จำนำข้าว
 
กลุ่มชาวบ้านนาอุดม หมู่ 19 ต.ขามใหญ่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 6 คน รวมตัวกันมาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วิจักษณ์ สายเบาะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี  ว่าเมื่อปลายปี 2555 นายพิทยา ธรรมสัตย์ ผู้ใหญ่บ้านนาอุดม ได้มารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวบ้านในราคาเดียวกันกับราคาที่สหกรณ์การเกษตรและโรงสีรับซื้อโดยชำระเป็นเงินสดทันที่ที่ตกลงซื้อขาย แต่ขอใบประทวนจากชาวบ้านไปด้วย และหลังจากสิ้นสุดโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลนายพิทยา  ได้นำชาวบ้านที่ตกลงซื้อขายข้าวไปเบิกเงินค่าข้าวจาก ธกส.โดยจ่ายค่าเดินทางให้คนละ 1,000-3,000 บาท หลังชาวบ้านทราบเรื่องจึงรู้ว่าถูกหลอกสวมสิทธิ์ใบประทวน จึงร้องเรียนไปทางเกษตรอำเภอเมืองอุบลราชธานี เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ไม่รู้เห็นด้วย กับการกระทำของนายพิทยา ตั้งแต่เดือน ตค.2556 แต่เรื่องดังกล่าวยังเงียบอยู่ไม่มีความคืบหน้าทางวินัยใดๆ กับนายพิทยา
 
น.ส.จันทร์ เขียวชอุ่ม อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่19 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี หนึ่งในชาวบ้านผู้เข้ามาแจ้งความ กล่าว เมื่อปลายปี 2555 นายพิทยา ได้มาขอใบประทวนบอกว่าจะนำไปเก็บไว้ให้ ด้วยความไว้ใจและเห็นว่าเป็นผู้นำชุมชนจึงมอบให้ไป แต่มาทราบภายหลังตอนที่มีเงินเข้ามาในบัญชี ธกส. จำนวน 152,500 บาท เมื่อช่วงเดือน ธค.2555 และนายพิทยา มารับให้ไปเบิกเงินให้ ก่อนเอาเงินให้ 3,000 บาท ให้เป็นค่าน้ำมัน แต่เมื่อขอใบประทวนคืนก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนให้ ซึ่งในปีนั้นไม่ได้ใช้ใบประทวนเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลเลย ภายหลังจึงรวมตัวกับเพื่อนบ้านซึ่งถูกหลอกยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่เกษตรอำเภอเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการสวมสิทธิ์ใบประทวนดังกล่าวแล้ว พบว่ามีมูลความจริง มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่เรื่องก็เงียบหายไป
 
อย่างไรก็ตามกระทั่งปี 2556 ได้นำข้าวเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวกับรัฐบาล จำนวน 4 ตัน เป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท แต่ก็ยังไม่ได้เงินจำนำข้าวดังกล่าวอยู่จึงเกรงว่าจะเป็นผลมาจากเรื่องที่ตนเอาใบประทวนไปให้นายพิทยา ธรรมสัตย์ใช้แทนตนด้วยหรือไม่ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีนายพิทยา ในข้อหาฉ้อโกง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป