posttoday

หมอเตือนวัสดุเข้าคอลูกห้ามล้วงเด็ดขาด

24 กุมภาพันธ์ 2557

พิษณุโลก-แพทย์เตือนภัยพ่อแม่ หากมีวัสดุแปลกปลอมเข้าคอลูก อย่าล้วงเด็ดขาดอาจถึงชีวิตได้

พิษณุโลก-แพทย์เตือนภัยพ่อแม่ หากมีวัสดุแปลกปลอมเข้าคอลูก อย่าล้วงเด็ดขาดอาจถึงชีวิตได้

นพ.ศิวฤทธิ์  รัศมีจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก แถลงข่าวกรณี ด.ญ.ฐิติชาญา ยิ้มสบาย หรือ น้องออมสิน อายุ 8 เดือน กลืนเศษถุงมือยาง และพ่อพยายามใช้มือล้วงและเป่าปาก ส่งผลให้เศษถุงมือยางขนาด 4-5 เซนติเมตร เคลื่อนเข้าไปติดหลอดลมใหญ่ ขั้วปอดซ้ายจนเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา

นพ.ศิวฤทธิ์ กล่าวว่า การที่อาหารหรือสิ่งแปลกปลอม อย่างเม็ดถั่ว เม็ดน้อยหน่า ลูกปัดเข้าไปทางเดินหายใจ กระบวนการในการช่วยชีวิตมีเวลาเพียง 5 นาที เพื่อไม่ให้สมองขาดเลือดนานจนเกิดความพิการหรือเสียชีวิต ซึ่งสิ่งแปลกปลอมพวกเมล็ดผลไม้ที่มีขนาดเล็กไม่โตมาก สามารถใช้เครื่องมือแพทย์หยิบออกมาได้ แต่สำหรับกรณีน้องออมสินที่พ่อแม่ปล่อยให้หยิบเศษถุงมือยางเข้าปาก ด้วยถุงมือยางเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ การช่วยชีวิตไม่ควรใช้มือล้วง การล้วงอาจไปดันให้วัสดุสิ่งแปลกปลอมเคลื่อนเข้าไปด้านในเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

ทั้งนี้ วิธีที่ดีที่สุดกรณีมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ให้ก้มหัวเด็กให้ต่ำ แล้วใช้มือทุบที่หลังให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดออกมา เด็กเล็กมาจับยกตัวหัวห้อย แล้วทุบที่หลังให้สิ่งที่ติดอยู่หลุดออกมา แต่ถ้าเป็นเด็กโตให้กดที่กลางลำตัว ก้มหัวลง แล้วใช้มือตบที่ทรวงอกให้ทรวงอกขยายออกมีแรงดันวัสดุออกมาเอง สิ่งแปลกปลอมหากหลุดในช่องทางเดินอาหารไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาถึงชีวิตหากเข้าไปทางเดินหายใจ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องรู้ทันเพื่อจะได้แก้ไขสถานการณ์สามารถช่วยชีวิตลูกหลานและคนใกล้ชิดได้