posttoday

สลด!ช้างป่าแม่ลูกอ่อนถูกยิงไส้ทะลัก

13 พฤศจิกายน 2556

ช้างป่าแม่ลูกอ่อนถูกยิงจนบาดเจ็บไส้ทะลัก แต่ยังคงพาลูกหากินลงมาใกล้หมู่บ้านอนุรักษ์

ช้างป่าแม่ลูกอ่อนถูกยิงจนบาดเจ็บไส้ทะลัก แต่ยังคงพาลูกหากินลงมาใกล้หมู่บ้านอนุรักษ์

นายชาญชัย จรเสมอ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง พร้อมกับนายประเสริฐ เชาว์พงศ์ หัวหน้าสายตรวจอุทยานแห่งชาติเขาหลวง นายสัตวแพทย์พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล สัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อนช้างภาคใต้ พร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบช้างป่าโขลงเดิมที่เคยลงมาหากินในป่าใกล้กับหมู่บ้าน หมู่ 6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี พบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่กลับมาอาศัยอยู่บริเวณชายป่าใกล้กับสวนชาวบ้านอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้าน ระบุว่า แม่ช้างอยู่ในสภาพบาดเจ็บ มีบาดแผลฉกรรจ์ 2 แผล และมีอวัยวะภายในคล้ายลำไส้โผล่ทะลักออกมาจากบาดแผลที่ท้อง

เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เดินเท้าเข้าไปตรวจสอบระยะกว่า 4 กม.และลัดเลาะเดินขึ้นไปบนภูเขาสูงชันอย่างลำบากกว่า 2 ชม. จึงพบว่าช้างป่าโขลงดังกล่าวหากินอยู่ในระหว่างหุบเขา ซึ่งมีต้นไม้หนาทึบจำนวน 8 ตัว เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบสภาพบาดแผลที่ถูกทำร้ายเพื่อหาทางช่วยเหลือแม่ช้างที่บาดเจ็บ เพราะเกรงว่าอาจมีการติดเชื้อและล้มลงได้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ได้พบซากช้างโขลงเดียวกันถูกฆ่าตายอยู่ในป่าลึกเขตอำเภอพิปูน จ.นครศรีธรรมราช แล้ว 1 ตัว จึงเกรงว่าหากช้างแม่ลูกอ่อนเชือกนี้ล้มอีกจะทำให้ช้างป่าโขลงสุดท้ายของนครศรีธรรมราชจะหมดไปในไม่ช้า

อย่างไรก็ตามจากความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสมาชิกของโขลงได้เข้าไปโอบล้อมช้างแม่ลูกอ่อนตลอดเวลา และแสดงอาการดุร้ายไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ จนในที่สุดช้างตัวเมียที่มีรูปร่างใหญ่ที่สุดของโขลงได้วิ่งไล่เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้สื่อข่าวพร้อมกับแผดเสียงร้องจนเสียงดังลั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบประมาณกว่า 10 คนรวมทั้งผู้สื่อข่าวต้องวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง บางคนต้องล้มลุกคลุกคลานและได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย เนื่องจากสภาพป่าดังกล่าวเป็นป่ารกชัฏและสูงชัน ในที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องล้มเลิกการติดตามโขลงช้างเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

นายชาญชัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปตรวจสอบลักษณะของบาดแผล แต่ยังทำไม่ได้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบาดแผลนี้เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งมีข้อมูลจากผู้พบเห็นอย่างชัดเจนเท่านั้น อย่างไรก็ตามได้จัดกำลังเจ้าหน้าสายตรวจเดินป่า 2 ชุดคอยติดตามโขลงช้างโขลงนี้เพื่อพยายามที่จะตรวจสอบและประสานกับสัตวแพทย์รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่เพื่อจะได้ร่วมกันติดตามอนุรักษ์ช้างโขลงนี้ไว้ให้ได้ต่อไป ส่วนบาดแผลนั้นมาจากเหตุใดก็ต้องทำการพิสูจน์กันต่อไป