posttoday

อบจ.สุราษฎร์-สตูลหยุดงานร่วมต้านนิรโทษ

13 พฤศจิกายน 2556

อบจ.สุราษฎร์ธานีและสตูล พร้อมโรงเรียนในสังกัดประกาศปิดทำการ 3 วัน ต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

อบจ.สุราษฎร์ธานีและสตูล พร้อมโรงเรียนในสังกัดประกาศปิดทำการ 3 วัน ต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.สุราษฎร์ธานี บรรยากาศเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ภายหลังมีการประกาศใช้มาตรการ “อารยะขัดขืน” ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต สส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำม็อบราชดำเนิน ซึ่งวันนี้ที่อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สุราษฎร์ธานี ได้มีการติดป้ายไวนิลสีดำ ตัวอักษรสีขาว ขนาด 1.5 เมตรคูณ 1.5 เมตร ขึงปิดประตูกระจกชั้น 1 ทางเข้าด้านหน้าทางสำนักงาน เขียนไว้ว่า “ร่วมต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หยุดทำงาน 13-15 พ.ย. 2556 ข้าราชการ ลูกจ้าง อบจ.สุราษฎร์ธานี”

นอกจากนี้ โรงเรียนในสังกัด อบจ.สุราษฎร์ธานี ทั้ง 3 แห่งประกอบด้วย โรงเรียน อบจ.สุราษฎร์ธานี 1 (ดอนสักผดุงวิทย์) อ.ดอนสัก , โรงเรียน อบจ.สุราษฎร์ธานี 2 ( บ้านดอนเกลี้ยง) อ.เมือง และโรงเรียน อบจ.สุราษฎร์ธานี 3 (บ้านนา) อ.บ้านนาเดิม ได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนเช่นกัน นอกจากนี้ที่สำนักงานเทศบาล ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ ได้ปิดสำนักงานไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำงานเช่นกัน

นายสมบูรณ์ เรืองแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 11 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มีสถานศึกษาในสังกัด สพม.11 รวม 66  แห่ง อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี 44 แห่งและ จ.ชุมพร 22 แห่งโดยมีสถานศึกษาปิดการเรียนการสอนเพียง 1 โรงเรียน  คือ โรงเรียนบ้านเสด็จพิทยาคม อ.เคียนซา เนื่องจากนักเรียนในพื้นที่ไม่มาเรียนผู้บริหารจึงสั่งปิดเรียน แต่ครูคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ขณะที่สำนักงาน อบจ.สตูล ปรากฏว่า ที่ประตูใหญ่ทางเข้าหน้าที่ทำการ อบจ.สตูล ประตูยังปิดแน่น ในขณะที่ห้องทำงานของฝ่ายต่างๆปิดอยู่  ไฟในห้องทำงานไม่เปิด ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่.อบจ.เพียงไม่กี่คนที่เดินทางไปทำภารกิจที่คั่งค้าง จากนั้นก็เดินทางกลับไป

นายสมหมาย คงเปีย หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ต่างๆได้ลางานเป็นเวลา 3 วัน โดยต่างคนต่างสมัครใจลาด้วยตัวเอง ไม่มีใครสั่งไม่มีใครบังคับ อันนี้เป็นไปตามความคิดเห็นของแต่ละบุคคล ความจริงข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง แต่เรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้เขาทำกันเกินไป ดังนั้นจึงมีการแสดงออกตามสิทธิในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง