ม็อบข้าวโพดบุกศาลากลางจี้รัฐอุ้มราคารอบ3

ชาวสวนข้าวโพดอุตรดิตถ์บุกศาลากลางร้องรัฐบาลแทรกแซงราคารอบ 3 โวยพาณิชย์จังหวัดดองเรื่อง

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. น.ส.วิภา เตชะภู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายเกรียงไกร มีมา แกนนำเกษตรกรชาวสวนข้าวโพด นำชาวไร่ข้าวโพด อ.ทองแสนขัน ฟากท่า ท่าปลา บ้านโคก และ อ.น้ำปาด ประมาณ 200 คน ชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.อุตรดิตถ์ เพื่อทวงสัญญากับ นายชัช กิตตินภดล ผวจ.อุตรดิตถ์ กรณียื่นหนังสือเรียกร้องให้จังหวัดแก้ไขและแทรกแซงราคาที่ตกต่ำ 2 ข้อ คือ ไม่สามารถจ่ายส่วนต่างที่จะจ่ายให้กับเกษตรกรกิโลกรัมละ 1.50 บาท จำนวนผลผลิตต่อไร่อยู่ที่ 945 กิโลกรัม และ ขึ้นทะเบียนเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อให้เข้าร่วมโครงการแทรกแซงราคาข้าวโพดได้ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ถือว่ารอบที่ 3 แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
 
ด้านนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผวจ.อุตรดิตถ์ เชิญเกษตรกรทั้งหมดไปเจรจาที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด ซึ่งก็สามารถตกลงกันได้ดี โดยเกษตรกรยอมที่จะลดจำนวนผลผลิตต่อไร่ลงมาจาก 945 กิโลกรัมเป็น 822 กิโลกรัม ส่วนเรื่องของการเบิกจ่ายเงินส่วนต่างนั้นหากเกษตรกรขายข้าวโพดได้เท่าไหร่จะจ่ายส่วนต่างเพิ่มให้อีกกิโลกรัมละ 1.50 บาท และสามารถจ่ายเงินให้ทันทีที่เอกสารถูกต้องครบถ้วนตามระเบียบราชการ พร้อมที่จะเซ็นเช็คให้กับเกษตรกรทุกรายด้วยตัวเอง ขณะที่เรื่องเอกสารสิทธิ์นั้นก็จะเร่งดำเนินการให้อย่างเร่งด่วนเช่นกัน เพราะเห็นใจที่เกษตรมาเรียกร้องหลายรอบแล้ว
 
ขณะที่นายเกรียงไกร กล่าวว่า ไม่อยากเดินทางมาทวงสัญญากับทางจังหวัดเป็นรอบที่ 4 เพราะรอบ 4 นี้จะนำเกษตรกรมาปิดถนนสาย 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลกทันที เพราะ 3 ครั้งที่ยื่นไปคนที่รับปากว่าจะดำเนินการให้คือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ทุกครั้งที่ทวงถามก็ไม่มีคำตอบให้ อ้างว่าติดประชุมไม่ยอมเผชิญหน้ากับเกษตรกร ส่วนต่างที่พาณิชย์รับปากจะให้ 945 กิโลกรัมต่อไร่ก็รับปากเพื่อให้เกษตรกรสลายการชุมนุมแต่ไม่เคยดำเนินการให้ แต่สุดท้ายก็มาบีบให้เกษตรกรต้องยอมอยู่ที่ 822 กิโลกรัมต่อไร่ ถือว่าไม่จริงใจกับการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง ถ้าไม่ทำก็ควรย้ายไปที่จังหวัดอื่นที่ไม่มีปัญหาผลผลิตทางการเกษตรแทน