โรงสีพิจิตรพร้อมรับจำนำข้าวแค่12แห่ง

ผู้ว่าฯพิจิตร ตรวจโรงสีรับจำนำข้าวที่ได้รับอนุมัติ 33 แห่ง พบว่ามีความพร้อมเพียง 12แห่ง

นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ รื่นสุข เกษตรจังหวัด, นายประธาน นรรัตน์ พาณิชย์จังหวัด, นางมิ่งขวัญ พุกเปี่ยม ประธานชมรมโรงสีข้าวพิจิตร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2556/2557 ซึ่งไปที่โรงสีธนกรบรรจงสรร ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมทางหลวงหมายเลข 117 เป็นโรงสีขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตได้มากวันละหลายพันตันจึงเป็นจุดรับจำนำข้าวที่สำคัญ

นายสุรชัย กล่าวว่า ได้อนุมัติให้โรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำทั้งหมด 33 แห่ง ซึ่งวันนี้เป็นการเปิดรับจำนำข้าววันที่ 2 ปรากฏว่ามีโรงสีที่มีความพร้อมรับจำนำข้าวจากชาวนาได้ 12 แห่ง เป็นของ อ.ต.ก. 8 แห่ง เป็นของ อคส. 4 แห่ง และในวันอังคารที่ 14 ต.ค. 2556 ก็จะมีโรงสีอีก 7 แห่ง ที่จะเปิดรับจำนำข้าว หลังจากนั้นคาดว่าประมาณวันที่ 22 ต.ค.นี้ก็จะเปิดรับจำนำได้ทั้งทั้ง 33 แห่ง

ผวจ.พิจิตร กล่าวอีกว่า จังหวัดพิจิตรถือเป็นจังหวัดแรกๆ ที่มีความพร้อมได้ดีที่สุด เหตุที่ช้าเปิดได้เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมาก็เพราะความล่าช้าจากส่วนกลางที่มีเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขจากการเรียกร้องของชาวนา ซึ่งเมื่อได้ข้อยุติทุกฝ่ายก็เดินหน้ารับจำนำข้าวอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการป้องกันการทุจริต ต้องห้ามปรามทุกฝ่ายเพราะลำพังโรงสี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อ.ต.ก. และ อคส. ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวนาให้รวมหัวกันโกงเรื่องการทุจริตก็คงไม่มีเกิดขึ้น ดังนั้นต้องเริ่มต้นที่ตัวชาวนาเองจะต้องมีสำนึกว่าการร่วมกันทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลทำเพื่อช่วยชาวนา

อย่างไรก็ตาม ถ้าชาวนาไปรวมหัวกับโรงสี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อ.ต.ก. และ อคส. ก็เท่ากับชาวนาเองที่ทำลายโครงการรับจำนำข้าวจนมีการเกิดการทุจริตที่เกิดขึ้นในจังหวัดพิจิตรซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนโด่งดังไปทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้ได้กำชับให้ทุกฝ่ายทำงานโดยสุจริตใจก็จะเป็นเกาะคุ้มกันไม่ให้เกิดขบวนการโกงโครงการรับจำนำข้าวที่เรียกว่า “พิจิตรโมเดล อัปยศ โคตรโกงในเรื่องการรับจำนำข้าว” อีกต่อไป

นอกจากนี้มีรายงานอีกว่าสำหรับบรรยากาศของการรับจำนำข้าวในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวนานับร้อยรายขนข้าวเปลือกใส่รถบรรทุกมาเข้าคิวจำนำข้าวกันอย่างคึกคัก ข้าวเปลือกที่นำมาจำนำส่วนใหญ่จะเป็นข้าวที่เกี่ยวเพื่อหนีน้ำท่วมจึงมีความชื้นอยู่ที่ระดับ 25 ถึง 28 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่มีใครได้ราคาตันละ 15,000 บาทแม้แต่รายเดียว