ยายวัย65แห่ขันหมากแต่งกับตาวัย82
เจ้าสาววัย65แห่ขันหมากไปสู่ขอเจ้าบ่าววัย82 หลังพบและคบกันได้เพียงเดือนเศษชาวบ้านร่วมยินดี
เจ้าสาววัย65แห่ขันหมากไปสู่ขอเจ้าบ่าววัย82 หลังพบและคบกันได้เพียงเดือนเศษชาวบ้านร่วมยินดี
ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 7 บ้านบากเรือ ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้มีการจัดพิธีมงคลสมรสขึ้น เจ้าสาวก็คือคุณยายนงนุช โพธิ์งาม อายุ 65 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ส้มป่อย อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ คุณยายได้หย่าร้างกับสามีเก่าผ่านมา 20 ปีแล้ว โดยมีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงไปเปิดร้านอาหารอยู่ประเทศสีเดน และน้องชาย 2 คนได้ตามไปอยู่ด้วย ปล่อยให้ผู้เป็นแม่อยู่บ้านคนเดียว เจ้าสาววันนี้ใส่เสื้อผ้าชุดไทยสีฟ้าเดินร่วมขบวนขันหมากมาบ้านเจ้าบ่าว ซึ่งเป็นการแต่งงานที่ไม่เคยมีประเพณีใดทำมาก่อนคือ เจ้าสาวแห่ขันหมากไปบ้านเจ้าบ่าว
หลังจากเจ้าสาวเข้าบ้านเจ้าบ่าวแล้วไปนั่งอยู่หน้า “พานบายศรี” ซึ่งจัดเตรียมไว้จากนั้นมีการจูงเจ้าบ่าวออกจากห้องที่สวมเสื้อขาวนุ่งสะโหร่งผ้าไหมมานั่งคู่กับเจ้าสาว เจ้าบ่าวในวันนี้ชื่อนายพรหม วรรณวงษ์ อายุ 82 ปี บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 7 บ้านบากเรือ ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ โดยประวัติของคุณตาพรหมมีอยู่ว่า ภรรยาของคุณตาเสียชีวิตไปได้ไม่นาน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง ทนความเหงาเปล่าเปลี่ยวไม่ได้อยากมีคนมาอยู่ร่วมชายคาเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กาย เจ็บไข้ได้ป่วยจะได้มีคนดูแลเพราะ ลูกชายของคุณตาวัย 45 ปี ก็เสียชีวิตไปแล้วส่วนลูกสะใภ้ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนหลานสาวทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์อยู่โรงพยาบาลเขมราฐ จ.อุบลราชธานี หลานชายเรียนหนังสืออยู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา
การแต่งงานครั้งนี้ด้วยสินสอดเงินสดจำนวน ห้าหมื่นเก้าร้อยบาท แต่งเจ้าสาวเข้าบ้านเงินทองก็ไม่รั่วไหลไปไหน
ด้านคุณตาพรหม เปิดเผยว่า การได้พบเจ้าสาวคนนี้โดยที่มีญาติของเจ้าสาวพาไปดูตัว ครั้งแรกที่เห็นก็ชอบเลยเพราะหน้าตาเหมือนคนมีบุญก็เลยไปมาหาสู่เป็นประจำ พอที่จะได้เป็นเพื่อนพูดคุยเวลารู้สึกเหงา พบกันเดือนเศษ ก็เลยไปสู่ขอและก็ได้จัดพิธีแต่งงานในวันนี้
ส่วนนางนงนุช กล่าวความในใจว่า ก่อนที่จะตกลงรับปากที่จะแต่งงานด้วยเพราะเห็นใจที่ไม่มีคนเลี้ยงดู ต้องอยู่ บ้านคนเดียวเหมือนฉันเองก็ไม่มีลูกดูแลคิดสงสารแก คิดว่าชาติปางก่อนอาจจะเป็นลูกแกก็ได้ก็เลยยอมแต่งงานด้วย ซึ่งครั้งแรกตกลงกันว่าจะจัดพิธีแต่งงานกันหลังออกพรรษาแล้ว แต่ทนรบเร้าจากเจ้าบ่าวไม่ไหวที่เร่งรัดการแต่งงานเพราะรู้จักกันเพียงเดือนกว่าเท่านั้น
นายประวิทย์ คำจันทร์ อดีตรองนายก อบต.เมืองคง ซึ่งเป็นหลานชายคุณตาพรหม เปิดเผยว่า หลังจากภรรยาคุณตาเสียชีวิตลง คุณตารู้สึกหว้าเหว่อยากหาคนมาอยู่ร่วมด้วยไว้พูดคุยแก้เหงาและดูแลเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เลยอยากหาคู่ครองเรื่อยมาแต่ไม่ชอบใจใครสักคน จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อนผ่านมา นางกุ้ง ไม่ทราบนามสกุลซึ่งเป็นหลานสะใภ้ของเจ้าสาววันนี้เป็นผู้แนะนำคุณตา คุณตาจึงไปมาหาสู่ดูใจด้วยการปั่นจักรยานบ้าง ลูกหลานพานั่งรถกระบะไปหาบ้าง หลังจากพูดคุยและดูใจกันหลายครั้งจึงเอ่ยปากขอแต่งงานด้วย ซึ่งทางญาติพี่น้องทางคุณตาก็เป็นใจด้วย
ภายหลังจากคุณยายนงนุชตกลงปลงใจจะร่วมหอลงโลงกับคุณตาพรหมแล้ว คุณยายนงนุชก็ได้โทรศัพท์ไปคุยกับทางลูกสาวลูกชายที่อยู่ประเทศสวีเดน ซึ่งทางลูกสาวลูกชายก็ไม่ขัดข้องที่แม่จะแต่งงานใหม่ จึงได้จัดมีงานแต่งงานในวันนี้ขึ้น ซึ่งในได้มีการจัดเลี้ยงแขกชาวบ้านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคุณตาคุณยายทั้งสองอย่างคับคั่ง ต่างมาผูกแขนเจ้าบ่าวเจ้าสาวและส่งเข้าห้องหอ