สร้างสะพานชั่วคราวแทนสะพานมอญเสร็จแล้ว

ชาวสังขละบุรีรวมพลังสร้างสะพานลูกบวบชั่วคราวข้ามแม่น้ำซองกาเลียแทนสะพานมอญเสร็จแล้ว

นายปกณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และ ชาวบ้านกว่า 500 คนรวมพลังสร้างสะพานไม้บวบข้ามแม่น้ำซองกาเลียแล้วเสร็จก่อนกำหนด ซึ่งสะพาานไม้บวบดังกล่าวจะใช้สัญจรไปมาแทนสะพานไม้มอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ซึ่งพังชำรุดเนื่องจากน้ำป่าไหลหลากพัดสวาะมาติดเสาสะพานทำให้ปิดทางน้ำไหลและเสาสะพานทนรับน้ำหนักไม่ไหวพังถล่มลงมาระยะที่ขาดออกจากกัน 52 เมตร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายปกรณ์ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนนอกจากนำไม้ไผ่มามอบให้แล้วยังใช้แรงช่วยกันแบกหาม บางรายให้ทั้งไม้ไผ่บริจาคทั้งเงินทอง และร่วมแรงกันอย่างพร้อมเพียง นอกจากนี้หญิงชราที่ไม่สามารถแบกหามได้ก็รวมตัวกันหุงหาอาหารเพื่อเลี้ยงทุกคน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน ทุกคนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และมีแต่เสียงหัวเราะให้กัน การร่วมแรงร่วมใจกันในครั้งนี้จึงทำให้การสร้างสะพานไม้บวบเสร็จเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เดิมทีคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วจากความสมัคสมานสามัคคีของทุกคนทำให้การสร้างสะพานไม้บวบแล้วเสร็จภายในระยะเวลาแค่ 6 วัน รวมระยะการสร้างสะพานประมาณ 300 กว่าเมตร สะพานกว้าง 6 เมตร ส่วนจุดศูนย์กลางบริเวณที่สะพานขาดและเป็นเส้นทางสำหรับเรือวิ่งผ่าน ชาวบ้านได้ใช้วิธียกสูงขึ้นเหนือน้ำประมาณ 2 เมตร ระดับทางเดินขึ้นที่ 45 องศา และหลังจากสร้างสะพานแล้วเสร็จทำให้ประชาชนทุกคนต่างแสดงความดีใจเป็นอย่างมา

ด้าน นางสาวรัชนี จำปีขาว ผญบ.หมู่ 2 กล่าวว่า ชาวบ้านได้เริ่มลงมือสร้างสะพานไม้บวบตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม คอยควบคุมการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา ขณะเริ่มทำการก่อสร้างชาวบ้านทั้งหมดกังวลใจว่าจะไม่มีอุปกรณ์ก่อสร้างที่เพียงพอโดยเฉพาะไม้ไผ่ที่ต้องใช้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนน้อย ดังนั้นพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสฯจึงได้คิดริเริ่มทำโครงการหนึ่งคนหนึ่งลำไม้ไผ่ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะมีประชาชนนำไม้ไผ่มาบริจาคให้ ภายหลังที่ประชาชนทราบข่าวจึงได้พร้อมใจกันนำไม้ไผ่มาบริจาคตามโครงการดังกล่าวเรื่อยมา และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเพียงพอต่อความต้องการ จนกระทั่งสามารถสร้างจนแล้วเสร็จ

ทั้งนี้การสร้างสะพานไม้บวบเป็นการสร้างเพื่อให้ประชาชนพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 2 เดิน ทางไปมาหาสู่กันเป็นการชั่วคราว ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะไม่จำเป็นต้องนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือนั่งรถโดยสาร เพราะสามารถเดินข้ามสะพานแห่งนี้ได้เลย ส่วนสินค้าการเกษตรหรือหรือที่ชาวบ้านหามาได้ก็สามารถนำไปจำหน่ายที่ตลาดใน อำเภอสังขละบุรีโดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนใช้สะพานดังกล่าวในการสัญจรไป มาได้เนื่องจากจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบความแข็งแรงของสะพานเสียก่อน จึงจะอนุญาตได้ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันก็คงจะอนุญาตให้ทุกคนผ่านไปมาได้ตามปกติ