posttoday

สั่งพัก 7 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรที่ค้านแต่งตั้งเจ้าอาวาส

20 เมษายน 2553

เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม สั่งพัก 7 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสข้อเคยต่อต้านแต่งตั้ง "พระราชมงคลรังษี" เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯเมื่อช่วง พ.ย.52

เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม สั่งพัก 7 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสข้อเคยต่อต้านแต่งตั้ง "พระราชมงคลรังษี" เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯเมื่อช่วง พ.ย.52

สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้มีลิขิตที่ จญ.อ.27/2553 ลงวันที่ 9 เมษายน 2553 แจ้งตามรายงานของพระพรหมสุธี เจ้าคณะภาค 12 ว่า พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับรายงานจากพระราชมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามว่า ได้สั่งพักตำแหน่งหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม จำนวน 7 รูปแจ้งต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)

โดยผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 7 รูป เป็นกลุ่มที่ออกมาต่อต้านการแต่งตั้งพระราชมงคลรังษี เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ซึ่งในขณะนั้นมีสมณศักดิ์ที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 พร้อมทั้งเสนอรายชื่อ พระปริยัติกิจวิธาน เป็นเจ้าอาวาสแทน ทั้งยังมีการเกณฑ์พระ เณร ภายในวัดมาชุมนุมที่พุทธมณฑล เพื่อยื่นหนังสือต่อ มส.แต่ มส.ยังยึดตามข้อเสนอของพระพรหมสุธี ที่เสนอแต่งตั้งให้พระราชมงคลรังษี เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม

พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า วัดโสธรฯได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯทั้ง 7 รูปจากการประพฤติผิดพระจริยาพระสังฆาธิการ ในกรณีปัญหาการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปโดยเรียบร้อย พระราชมงคลรังษี จึงได้สั่งพักตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับระเบียบข้าราชการเมื่อมีการสอบสวนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็ต้องมีการสั่งพักตำแหน่งทันที

ทั้งนี้ หากผลสอบสวนออกมามีความผิดก็ต้องสั่งปลด แต่ถ้าผลสอบสวนออกมาไม่มีความผิด เราก็ต้องคืนตำแหน่งให้ท่านไป อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่า ผลการสอบสวนผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรสรารามทั้ง 7 รูป เสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงการรวบรวมสำนวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์คงจะทราบผลสอบสวนอย่างเป็นทางการ

ด้านพระครูโสภณ สรกิจ 1 ใน 7 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบถึงเรื่องดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาได้เคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.52 แล้ว และได้เรียกคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้งหมดที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมในการแต่งแต่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาทั้ง 7 รูปไปทำการสอบสวนเป็นรายตัวบุคคลยังที่วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ (วัดเมือง) แล้ว ประกอบด้วยเจ้าคุณปริยัติกิจวิธาน, พระครูภาวนากิจพิลาส, พระครูโสภณ สรกิจ, พระครูปริยัติปัญญาธร, พระครูศรีปริยัติวิมล, พระครูปลัดสันติภัทร และพระมหาปรีชา เตชวณฺโณ เมื่อวันที่ 2-3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยที่คณะกรรมการสอบสวนที่มาสอบสวนส่วนใหญ่ถูกแต่งตั้งโดยเจ้าคณะภาค 12 มาจากในกรุงเทพฯเกือบทั้งหมด

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังได้เคยสั่งพักงานเจ้าคุณปริยัติกิจวิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทราไปก่อนหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.53 ระหว่างที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยที่ได้ให้พระมหามาโนช หรือพระครูปริยัติธรรมกิจ เจ้าคณะอำเภอท่าตะเกียบ ซึ่งเป็นพระเลขาคนสนิท ของเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการณ์เจ้าคณะอำเภอเมืองแทน

การสั่งพักงานหรือสั่งปลดคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯในครั้งนี้ เชื่อว่ามีการตั้งธงไว้ก่อนการสอบสวนแล้ว เพราะทราบจากคณะกรรมการสอบสวนบางท่านว่า เจ้าคณะภาค 12 ต้องการสั่งปลด คณะผู้ช่วยที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสทั้งหมด 7 รูป ตามที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ หรือพระราชมงคลรังสี เจ้าอาวาสวัดโสธรรูปปัจจุบัน เสนอไป ส่วนอีก 4 รูปนั้นในระหว่างการเคลื่อนไหวต่อสู้ของพระสงฆ์ภายในวัดนั้น ได้เปลี่ยนใจกลับไปเป็นฝ่ายสนับสนุน ให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสจากคนนอก จึงได้รอดพ้นการถูกกล่าวโทษไปในครั้งนี้ ประกอบด้วยพระครูสุนทรกิจประยุต ผู้ดูแลเกี่ยวกับโรงเจ เจ้าคุณพระพิมลภาวนาพิธาน และพระครูสิทธิวรารักษ์ ดูแลพระอุโบสถหลังใหม่ ส่วน พระครูโสภิตวรกิจพิพัฒน์ ดูแลโบสถ์ชั่วคราวหลังเก่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับแหล่งผลประโยชน์ และรายได้ของทางวัดทั้งสิ้น

"พระที่ออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวต่อสู้นั้นส่วนใหญ่เป็นพระครู ที่ทำการสอนอยู่แต่ภายในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องรายได้ และผลประโยชน์ของทางวัดแต่อย่างใด นอกจากนี้ที่ผ่านมาคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 7 รูปยังได้ถูกเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปปัจจุบัน กดบีบเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายและตัดงบประมาณต่างๆ โดยไม่ให้การสนับสนุนต่อกิจกรรมภายในโรงเรียนพระปริยัติธรรม เกือบทั้งหมด" พระครูโสภณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาหลังการเคลื่อนไหว ต่อต้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมานั้น ได้มีพระสงฆ์ ซึ่งเป็นครูผู้สอนสามเณร ภายในโรงเรียนพระปริยัตธรรม ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ได้ร่วมออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนั้น ได้ลาสิกขา สึกออกไปแล้ว 1 รูป คือ พระมหาปิยะบุตร ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะความอึดอัดใจในระบบของกระบวนการปกครองในคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อพระลูกวัด ชั้นผู้น้อย จึงได้ลาสิกขาออกไปในที่สุด