วอนเลื่อนปลูกข้าวนาปีหวั่นฝนทิ้งช่วง

ชลประทานวอนเกษตรกรเลื่อนเพาะปลูกข้าวนาปีหวั่นฝนทิ้งช่วงน้ำไม่พอส่งเลี้ยงต้นข้าวจะแห้งตาย

ม.ล.อนุมาศ ทองแถม  ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่8 นครราชสีมา กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชลประทานลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกรขอให้มีการเลื่อนทำนาปีออกไปในเขตอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง  ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 70.015 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 324.790 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 22.26 %  , อ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี  ปริมาณน้ำอยู่ที่ 39.530 ล้าน ลบ.ม. จากความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 28% ของความจุทั้งหมด , อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี ปริมาณน้ำอยู่ที่ 105.487 ล้าน ลบ.ม. จากความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 38.36% , อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ปริมาณน้ำอยู่ที่ 30.890 ล้าน ลบ.ม. จากความจุกักเก็บทั้งหมด 109.630 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 28.18 % โดยขอให้รอจนกว่าระดับน้ำอ่างฯหลักจะถึง 50 %ของความจุหวั่นฝนทิ้งช่วงน้ำไม่พอส่งเลี้ยงต้นข้าวจะแห้งตาย

อย่างไรก็ตามทางชลประทานได้ส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างสม่ำเสมอทุกอ่างเก็บน้ำ ถึงแม้น้ำจะไหลเข้าหรือไม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำก็ตาม แต่ในช่วงนี้ได้เริ่มเข้าสู่การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ดังนั้นปัจจัยในการเกษตรหรือการทำนาปีจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งได้ทำการแบ่งส่วนกับน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคแล้ว จึงต้องพิจารณาว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำหรับการเริ่มทำนาปีนั้นเพียงพอหรือไม่ ถ้าปริมาณน้ำในอ่างยังไม่เพียงพอต่อการเริ่มทำนาปีหรือความจุของน้ำยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอ่างเก็บน้ำอาจจะต้องขอเลื่อนการทำนาปีไปก่อน เช่น ขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคลองมีปริมาณ 28% จะทำการแบ่งน้ำในส่วนของการใช้อุปโภคบริโภคประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อเดือน ส่วนที่ต้องการคือปริมาณน้ำท่าที่ไหลเข้าสู่อ่างให้ได้ปริมาณเกินหรือครึ่งหนึ่งของอ่างเก็บน้ำ ดังนั้นถ้าได้ปริมาณครึ่งหนึ่งของอ่างเก็บน้ำแล้วทางชลประทานจะทำการประชุมกรรมการร่วมเพื่อกำหนดโครงการที่จะทำนาปีต่อไป ส่วนในเรื่องของการอุปโภคบริโภคนั้น ก็ขอยืนยันว่ามีเพียงพอและเป็นไปตามแผนที่ทางชลประทานได้วางไว้