posttoday

ปราชญ์ชาวบ้านยะลาแนะถอยคนละก้าว

25 มิถุนายน 2556

ปราชญ์ชาวบ้านยะลาแนะ ถ้าบีอาร์เอ็นและไทยไม่ถอยกันคนละก้าว อนาคตถกเจรจาครั้งต่อไปอาจมืดมน

ปราชญ์ชาวบ้านยะลาแนะ ถ้าบีอาร์เอ็นและไทยไม่ถอยกันคนละก้าว อนาคตถกเจรจาครั้งต่อไปอาจมืดมน

นายคลองธรรม แซ่เจน ปราชญ์ชาวบ้าน จ.ยะลา กล่าวว่า กลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทย หากไม่ถอยคนละก้าว อนาคตการพูดเจรจาสันติภาพภาคใต้อาจมืดมน หลังกลุ่ม BRN ได้ยื่นข้อเสนออกมาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยข้อเรียกร้อง 7 ข้อ และ ข้อย่อยต่างๆ ของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ออกมาล่าสุดก็เป็นครั้งที่ 4 ในความคิดเห็นส่วนตัวก็รับได้ในบางข้อ และ ในอีกหลายๆข้อก็รับไม่ได้เลย โดยข้อที่รับได้ คือข้อที่ 4 ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมุสลิม (อส.) ประกอบศาสนกิจได้เต็มที่ในห้วงเดือนรอมฎอน (ถือศีลอด) ในสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในส่วนที่เหลือก็คิดว่ารัฐบาลไทยคงรับได้ยาก เช่น ในเรื่องที่ กลุ่มบีอาร์เอ็นห้ามคนไทยเข้าทำกิจกรรมทางสังคมในห้วงเดือนรอมฎอน ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดวิสัย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็ได้มีการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆในเดือนรอมฎอนกันอย่างเต็มที่ มีการส่งเสริมอำนวยความสะดวกใหเพี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่

ส่วนแนวโน้มที่จะมีการเจรจาเพื่อสันติภาพในครั้งต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งก็เชื่อว่าลึกๆ ทางรัฐบาลไทยหวังให้มีการเจรจาต่อ ส่วนกลุ่มบีอาร์เอ็นก็เชื่อว่าหวังให้มีการเจรจาต่อ แต่การเสนอข้อเรียกร้องยากที่จะยอมรับ ก็ไม่รู้ว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะหาทางออกได้อย่างไร หากทั้ง 2 ฝ่ายมีความจริงใจต่อกัน ทั้งรัฐบาลไทย และ กลุ่มบีอาร์เอ็นก็ต้องถอยกันคนละก้าว แล้วก็เปิดพื้นที่ว่างในการเจรจาได้ แต่ถ้าหากมีการเผชิญหน้ากันแบบนี้ และ มีการยื่นข้อเสนอที่ยากที่จะรับได้แบบนี้ ตนเองคิดว่าคงจะใกล้ที่จะคุยกันได้ยาก

ด้านพล.ต.ต. พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ขึ้นเครือข่ายวิทยุให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบุคคลที่แต่งกายคล้ายตำรวจ ขับขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่บ้านแบหอ-โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งจากการตรวจสอบก็เชื่อว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นตำรวจ เนื่องจากหากเป็นตำรวจในพื้นที่ จ.ยะลา ก็จะมีสัญญาณบอกฝ่ายเอาไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเป็นโค้ดที่จะรู้กันภายในเท่านั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พบเห็นบุคคลในลักษณะดังกล่าวหรือคล้ายคลึงให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทาง 191 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรีบไปตรวจสอบ