หมอกควันอินโดลามถึงนราธิวาส

หมอกควันจากไฟป่าในอินโดลามถึงนราธิวาส เพิ่มความหนาแน่นมากขึ้นแล้ว

สถานการณ์ไฟป่าที่เผาผลาญสวนปาล์มน้ำมัน บนเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย ในพื้นที่ จ.เรียว ซึ่งในเบื้องต้นทางการประเทศอินโดนีเซียออกมาระบุว่า น่าเกิดจากการลักลอบเผาป่าเพื่อปลูกต้นปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชนบางแห่ง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังคงวิกฤติ จนส่งผลทำให้ควันไฟป่าได้ถูกกระแสลมพัดปกคลุมขยายวงกว้างไปยังพื้นที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งล่าสุดภาคใต้ตอนล่างอย่าง จ.สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส เริ่มได้รับผลกระทบจากควันไฟป่าแพร่ปกคลุมแต่ไม่หนักมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว

ล่าสุดในช่วงเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา  ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนเดินทางไปตรวจสอบพบว่า โดยภาพรวมในช่วงเวลาดังกล่าว มีควันไฟป่าแพรปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมอกสีขาวแต่มีกลิ่นเหม็นคล้านควันไหม้แพรปกคลุม ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะขับและขี่ยานพาหนะบนท้องถนนสั้นลงอยู่ในระยะเพียง 300-400 เมตร ถ้าเปรียบเทียบกับวานนี้จะมีควันไฟป่าแพรปกคลุมพื้นที่หนาตากว่าวานนี้เกือบ 2 เท่า ยานพาหนะทุกชนิดต้องคอยเปิดไฟหน้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แต่สภาวะดังกล่าวจะเริ่มดีขึ้นเมื่อเวลา08.00 น.เป็นต้นไปเมื่อแสงอาทิตย์ได้สาดส่องลงมา และจะเป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้อีกครั้งในช่วงใกล้ค่ำที่จะมีควันไฟป่าแพรปกคลุมหนาตาอีกครั้ง จากสภาวะของอากาศที่เริ่มเย็นลง และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่แถบชายป่าที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหนาตา กลุ่มนี้จะมีควันไฟป่าแพรปกคลุมมากขึ้นกว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมือง บางครอบครัวถึงกับต้องปิดประตูหน้าต่างและอาศัยอยู่ท่ามกลางความอบอ้าว ที่ไม่สามารถทนกลิ่นเหม็นฟุ้งของควันไฟป่าได้

นอกจากนี้แล้วผลพวงของควันไฟป่าในประเทศอินโดนีเซียแพร่ปกคลุมพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังส่งผลกระทบต่อประชาชนที่นำเรือประมงออกไปจับสัตว์น้ำกลางทะเลด้วย เพราะต้องยืดเวลาในการเดินเรือออกไปอีกวันละ 2-3 ชั่วโมง ทำให้การจับสัตว์น้ำกลางทะเลสั้นลง และได้ปริมาณสัตว์น้ำลดน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นในเร็ววันนี้ อาหารทะเลก็จะแพงขึ้นเหมือนเงาตามตัว