ชาวบ้านโวยรัฐเมินแก้รุกกว๊านพะเยา

ชาวบ้านร้องหน่วยงานรัฐไม่สนใจแก้ปัญหารุกกว๊านพะเยา

นายบุญมี คำลือ กำนันต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า ครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่มาตรวจราชการที่จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2555 และได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดดำเนินการโครงการขุดลอกแก้มลิงตอนเหนือของกว๊านพะเยา บริเวณเหนือสะพานขุนเดช ต.บ้านต๋อม อ.เมือง โดยใช้พื้นที่ในโครงการประมาณ 580 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้มีการสำรวจพบว่าเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์จำนวน 32 ไร่ ที่เหลือมีระวางเอกสารสิทธิ์ทั้งโฉนดที่ดิน นส.3 ก. และระวางไม่ปรากฏเลขที่ บางระวางออกกลางแม่น้ำอิง ทำให้โครงการขุดลอกเพื่อทำแก้มลิงไม่สามารถเดินหน้าได้ กลุ่มผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และประชาชนบ้านต๋อม จึงได้สอบถามไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานที่ดินจังหวัดพะเยา ธนารักษ์พื้นที่พะเยา และ สถานีประมงน้ำจืด หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยา ในปัจจุบัน แต่ทั้งสามหน่วยงานก็โยนกันไปมาไม่มีความชัดเจนถึงแนวเขตกว๊านพะเยา
 
นายบุญมี กล่าวอีกว่า เพื่อให้โครงการขุดลอกแก้มลิงกว๊านพะเยาเดินหน้า เรื่องนี้ทางเทศบาลตำบล(ทต.)บ้านต๋อม  พร้อมด้วยผู้นำในพื้นที่และประชาชนชาวบ้านต๋อม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ น.ส.อรุณี ชำนาญยา สส.พะเยา เขต 1 พรรคเพื่อไทย(พท.) ให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบ หากเอกสารสิทธิ์แปลงใดออกมาโดยมิชอบและพบมีพื้นที่ทับพื้นที่กว๊านพะเยา ก็จะต้องพิจารณาให้มีการเพิกถอน เพื่อจะได้ใช้พื้นที่กว๊านพะเยาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อไป
 
ด้าน น.ส.อรุณี กล่าวว่า เมื่อเป็นความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าโครงการพัฒนากว๊านพะเยา จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกที่กว๊านพะเยาก่อน เมื่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในการแก้ปัญหา จนกระทั่งประชาชนเดือดร้อนมาร้องเรียน ฝ่ายการเมืองคงไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เพราะการพัฒนากว๊านพะเยา ณ เวลานี้คงเสียเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว หากเอกสารสิทธิ์ใดที่ออกทับแนวเขตกว๊านพะเยาโดยมิชอบ ก็ต้องพิจารณาให้มีการเพิกถอนตามขั้นตอนต่อไป
 
ขณะที่นายอัครา พรหมเผ่า รองนายก อบจ.พะเยา กล่าวว่า ที่ดินของเอกชนที่ดำเนินการถมเพื่อปรับพื้นที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน พะเยา-เชียงราย ท้องที่หมู่ 13 ต.บ้านต๋อม ซึ่งอยู่เหนือสะพานขุนเดชขึ้นไป ทางคณะทำงานระดับจังหวัดได้รับข้อมูลร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า เอกชนได้ถมที่ล่วงล้ำเข้าไปในแนวเขตกว๊านพะเยา ซึ่งเรื่องนี้เบื้องต้นทราบว่าทางผู้บริหารระดับจังหวัดได้แจ้งไปยังเอกชนเจ้าของพื้นที่ให้รับทราบและระงับการถมไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เอกชนเจ้าของที่ดินนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงกรรมสิทธิ์จึงเป็นข้อพิพาท ทางกจังหวัดพะเยาจึงได้ตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาตรวจสอบแนวเขตให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพราะพื้นที่กว๊านพะเยาเหนือสะพานขุนเดช จะต้องถูกใช้เป็นพื้นที่ขุดลอกทำแก้มลิง แก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และพื้นที่ใดที่เป็นของกว๊านพะเยาก็ต้องขอคืนมาให้เป็นสมบัติแผ่นดิน