posttoday

พบครูฝรั่งสู้ชีวิตเร่ขายบาร์บีคิวหารายได้เสริม

03 พฤษภาคม 2556

ฝรั่งแดนผู้ดีสอนภาษาไม่พอเลี้ยงครอบครัวขับจยย.พ่วงเร่ขายบาร์บีคิวหารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว

ฝรั่งแดนผู้ดีสอนภาษาไม่พอเลี้ยงครอบครัวขับจยย.พ่วงเร่ขายบาร์บีคิวหารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว

นายอาลิสเตย์  เอียน มิเออร์ สัญชาติอังกฤษ ครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนพาณิชยการแห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ สู้ชีวิตใช้เวลาว่างจากการสอนหนังสือ ขับรถซาเล้ง ออกเร่ขายบาร์บีคิวใน อ.หาดใหญ่ เพื่อหารายได้เสริมมาเลี้ยงดูคนในครอบครัวรวม 5 ชีวิต เนื่องจากเงินเดือนจากการเป็นครูไม่พอกับค่าใช้จ่าย โดยในเวลาประมาณบ่ายสองโมงของทุกวันหลังจากเสร็จจากการสอนหนังสือและในช่วงปิดเทอม จะขับรถซาเล้งเขียนป้ายสโลแกนข้างรถว่า  “ครูอารี ฝรั่งบาร์บีคิว หมูไก่ไม้ละ 20 ซอสอร่อยจากอังกฤษ ฝรั่งหัวใจไทย เรารักเมืองไทย” ออกจากบ้านเช่าในซอย 4 ถนนปุณกัณฑ์ ตรงข้ามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ไปเร่ขายบาร์บีบีคิวตามจุดต่างๆในตัวเมืองหาดใหญ่
 
ทั้งนี้จุดแรกขายที่หน้าหาดใหญ่เบอร์เกอรี่เซ็นเตอร์ ย่านถนนรัถการ จุดที่สองตรงข้ามโรงพยาบาลหาดใหญ่ และจุดที่สามที่ตลาดศรีตรังข้างมหาวิทยาลัยสงขลานรินคร์ ซึ่งแต่ละวันจะขายจนหมดและกลับเข้าบ้านในเวลา 2-3 ทุ่ม ซึ่งจากการติดตามไปดูการขายบาร์บีคิวของครูอารี พบว่าได้รับความนิยมจากลูกค้าค่อนข้างดีทันทีที่นำรถไปจอดก็มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องและต่างชอบในรสชาติบาร์บีคิวของครูอารี โดยเฉพาะซอสที่เป็นต้นตำรับของประเทศอังกฤษ ที่สำคัญครูอารี ยิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายหยอกล้อกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง โดยประโยคเด็ดที่ติดปากและอ้อนลูกค้าคือ "ขายให้หมดไม่งั้นเมียจะไม่ให้เข้าบ้าน"ซึ่งเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากลูกค้าเป็นอย่างดี
 
นายอาลีสเตย์ กล่าวว่า เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ประมาณ 4 ปี และแต่งงานกับสาวไทย คือ นางวรัตรา พุ่มมาลา ชาวอ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา โดยมีลูกด้วยกันหนึ่งคน จากเดิมสอนภาษาอยู่ที่อ.ปากช่อง กว่า 3 ปี และเริ่มขายบาร์บีคิวโดยนำรถเข็นออกเร่ขายเป็นรายได้เสริมที่อ.ปากช่อง ก่อนที่จะย้ายมาสอนภาษาอยู่ที่อ.หาดใหญ่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงยึดอาชีพเร่ขายบาร์บีคิวเพื่อหารายได้เสริมแต่เปลี่ยนจากรถเข็นเป็นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างหรือซาเล้งแทน
 
เนื่องจากต้องเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวถึง 5 คน ทั้งตัวเอง ภรรยา ลูกสองคน ซึ่งเป็นลูกของตัวเองกับลูกติดมาจากภรรยาคนไทย รวมทั้งหลานสาวของภรรยา ซึ่งเงินเดือนจากการสอนภาษาไม่พอเป็นค่าใช้จ่ายและเลี้ยงคนในบ้าน จึงต้องหารายได้เสริมโดยแต่ละวันจะทำบาร์บีคิวไปขายวันละประมาณ 200 ไม้ มีรายได้จากการขายที่ยังไม่หักตุนทุนประมาณวันละ 3,000 บาท นอกจากนี้ต้องการเก็บเงินบางส่วนเป็นตั๋วเครื่องบินพาครอบครัวกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษเนื่องจากมีราคาแพงคนละ 6 หมื่นบาท

นายอาลีสเตย์  กล่าวอีกว่า เขารักเมืองไทยมากและจะขอใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยกับภรรยาและลูกๆจนวันตาย หากมีโอกาสก็จะพาครอบครัวกลับไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศอังกฤษบ้าง เพราะไม่ได้กลับมาหลายปี ส่วนชีวิตในวันนี้พออยู่พอกินและมีความสุขกับครอบครัวที่สำคัญคนไทยเป็นมิตรและน่ารัก