posttoday

จับ2คนร้ายรุมยำโจ๋จนสลบ

22 เมษายน 2556

ตำรวจปากน้ำจับ 2 คนร้ายรุมทำร้ายโจ๋รุ่นน้องจนสลบและกักขังในห้อง

ตำรวจปากน้ำจับ 2 คนร้ายรุมทำร้ายโจ๋รุ่นน้องจนสลบและกักขังในห้อง

พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงผลจับกุมตัว นายธนิด  สิงห์เงิน หรือเบียร์ และ นายเสน่ห์ นิยมกูล หรือเก่ง สองผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นกักขังหน่วงเหนี่ยวปราศจากเสรีภาพ พร้อมของกลาง อาวุธมีดสปาตาร์ 1 เล่ม หมวกนิรภัยสีดำ 1 ใบ
 
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 เม.ย.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจาก น.ส.สมพร พันธุ ว่าลูกชาย คือ นายอนุพล มีชอบ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 18 เม.ย.โดยครั้งสุดท้ายทราบว่า ลูกชายได้พูดคุยมีปากเสียงผ่านทางโทรศัพท์คุยกับ นายธนิด ซึ่งเป็นพรรคพวกกลุ่มเดียวกัน ก่อนมีการนัดพบเจอกันบริเวณปากซอยเคหะสมุทรปราการ หมู่ 6 ต.ท้ายบ้านใหม่ แล้วหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย

พ.ต.ท.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ รอง ผกก.สส. จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภกร ธัญญกรรม สว.สส. และ พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน สว.สส. นำกำลังตรวจสอบ พร้อมเช็กข้อมูลการใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้สูญหาย เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหายใช้ติดต่อจนกระทั่งพบพิกัดการใช้โทรศัพท์จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนพบว่าทั้งหมดอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1614/713 หมู่บ้านการเคหะสมุทรปราการ หมู่ 6 ต.ท้ายบ้านใหม่ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบร่างไร้สติของนายอนุพล ถูกมัดมือเท้า อยู่ภายในห้องครัวหลังบ้าน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ พร้อมจับกุมสามารถติดตามควบคุมตัว นายธนิด และนายเสน่ห์ ขณะกบดานอยู่อยู่ในห้องเช่าของโรงงานแห่งหนึ่ง ในซอยฟอกหนัง กม.30 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร

นายธนิด ให้การว่า เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้บาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้เขาและนายอนุพล เกิดมีปัญหาทางด้านการเงิน ต่อมาในวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา จึงได้นัดเคลียร์ปัญหา แต่เมื่อมาเจอหน้า นายอนุพล กลับพูดจาก้าวร้าวด่าทอใส่เขา ทั้งที่เป็นรุ่นน้องประกอบกับความเครียดส่วนตัว จึงแค้นจัดจึงร่วมกับนายเสน่ห์ รุมซ้อมโดยใช้มีดฟัน พร้อมหมวกกันน็อกฟาดทุบหัว จึงนายอนุพลได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติแล้วนำไปกักตัวไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.พัลลพ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ  กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของสองผู้ต้องหามากนัก เนื่องจากมองว่ามีพฤติกรรมที่โหดร้ายและเป็นการเตรียมวางแผนมาอย่างดีสำหรับการก่อเหตุ โดยมีพฤติกรรมลักษณะคล้ายแก๊งอุ้มรีด ประกอบกับ 1 ใน 2 ผู้ต้องหานั้น ยังมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ยาเสพติดก่อนหน้านี้ จึงมีการตรวจสอบมูลเหตุที่แท้จริงของการอุ้มรุมซ้อมทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป