posttoday

นักวิชาการหนุนเจรจาดับไฟใต้ต่อ

06 เมษายน 2556

นักวิชาการยะลา ชี้ การเจรจาต้องใช้เวลา ถึงแม้ว่าล้มไป ก็ต้องลุกมาเจรจากันใหม่ อ้างอาเจะห์ ใช้เวลา 8 ปี จะสำเร็จ

นักวิชาการยะลา ชี้ การเจรจาต้องใช้เวลา ถึงแม้ว่าล้มไป ก็ต้องลุกมาเจรจากันใหม่ อ้างอาเจะห์ ใช้เวลา 8 ปี จึงสำเร็จ

ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ในฐานะนักวิชาการที่ศึกษาและติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มองว่า การเจรจาระหว่างฝ่ายความมั่นคง กับ ผู้แทน ขบวนการ BRN Coordinate (บี อาร์ เอ็น โคออร์ดิเนต ) ที่ประเทศมาเลเซีย จะเกิดสถานการณ์ก่อนหรือหลังการเจรจา เป็นเรื่องปกติที่จะมีกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเกิดการต่อต้านฝ่ายความมั่นคงเกิดขึ้น แต่ในระยะยาว เชื่อว่า สถานการณ์ต่างๆ จะค่อยเบาบางลง สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง คือความสงบสุขในพื้นที่ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า สถานการณ์จะยุติลงทันทีทันใดหรือไม่อย่างไรนั้น คงจะตอบยากไปหน่อย เพราะกรณีกระบวนการศึกษาของอาเจะห์ นั้น ต้องใช้เวลากว่า 8 ปี ทั้งล้มลุกคลุกคลาน แต่เมื่อเริ่มต้นกระบวนการเจรจา ก็ต้องมีข้อเสนอ อาจมีข้อเสนอทั้งสองฝ่าย อย่างกรณีข้อเสนอของขบวนการ กรณีการนิรโทษกรรมประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่รัฐบาลต้องแยกแยะว่ามีความผิดในระดับใดบ้าง ความผิดสถานเบา อาจทำได้ แต่ถ้าเป็นกรณีความผิดสถานหนัก ต้องมาคิดอย่างรอบคอบว่าทำได้หรือไม่ เชื่อว่ารัฐบาลทำได้

ส่วนเรื่องการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้มีความเห็นต่าง นั้น เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหาอยู่ เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง บางหน่วยงานยังมีปัญหาอยู่ การอำนวยความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ดี แต่ระวังอย่าสร้างเงื่อนไขซ้ำเติม การอำนวยความยุติธรรม จะทำให้ผู้ที่มีความเห็นต่าง กล้าที่จะออกมาพูด

ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ กล่าวว่า ระบบเครือข่ายของขบวนการ มีการครอบคลุมไปหลายเครือข่าย ในลักษณะใยแมงมุม ดังนั้น องคาพยพ ต่างๆ ยังมีจำนวนมาก แค่เราไปเจรจาเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังมีหลายๆ กลุ่มที่ยังไม่เห็นด้วย จึงมีผลต่อการสร้างสถานการณ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวเองยังมีศักยภาพ กระบวนการพูดคุย ที่จะทำให้หยุดทันทีทันใดไม่ได้ ดังนั้น ขบวนการ BRN (บีอาร์เอ็น) จะต้องเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกันต่อไป ส่วนจะบรรลุผลมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูกลุ่ม BRN (บีอาร์เอ็น) ที่มาพูดคุยกับรัฐบาลในครั้งนี้ มีพลังและอำนาจจริงหรือไม่