posttoday

ชาวนราฯนับพันรณรงค์ต้านความรุนแรง

09 มีนาคม 2556

ชาวนราธิวาส กว่า 1,000 คน ร่วมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง

ชาวนราธิวาส กว่า 1,000 คน ร่วมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารหอประชุมบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้มีกลุ่มตัวแทนพลังมวลชนทั้งชายและหญิงในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 1,000 คน ได้รวมตัวกันถือธงชาติและป้ายผ้าเขียนข้อความเป็นภาษาไทย ในการเดินรณรงค์เพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือกับทางการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่กองกำลังและประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตไปกับสถานการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีแล้วจำนวนกว่า 5,500 คนและได้รับบาดเจ็บกว่า 8,900 คน

ซึ่งกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครั้งนี้ มีนายสามารถ วราดิศัย รอง ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พล.ต.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผบ.ฉก.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้และนายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ปธ.คณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานและบรรยายพิเศษในเรื่องของความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มคนร้ายอาศัยหลักคำสอนของศาสนามาบิดเบียน ข้อกฎหมายและความไม่ทัดเทียมกันในสังคม มาทำการปลุกระดมชวนเชื่อให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่อต้านการทำงานของภาครัฐ รวมถึงการพูดคุยเชิญชวนให้พลังมวลชนเป็นตัวแทนภาครัฐในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่หลงผิดเข้ารายงานตัวตามมาตรา 21 ซึ่งทางการจะอำนวยความสะดวกและให้ความเป็นธรรม 

รายงานข่าวแจ้งว่าการรวมตัวของพลังมวลชนในครั้งนี้ ตัวแทนของพลังมวลชนได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่เข้าร่วมกิจกรรมบางนาย เกี่ยวกับการร่วมลงนามข้อตกลงที่จะพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อนำไปสู่สันติสุข ระหว่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.กับ นายฮัสซัน ตอยิบหรือ นายอาแซ เจ๊ะหลง รอง เลขาธิการกลุ่ม BRN โดยมี พล.อ.ตันสรีดาโต๊ะสรี บินโมฮัมเหม็ด ซิน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดประเทศมาเลเซีย เป็นสักขีพยานนั้น แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ภาคใต้ยังไม่สงบ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร กล่าวสั้นๆกับตัวแทนพลังมวลชนว่า มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องมีการพูดคุยและเจรจากันของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ภาคใต้สงบโดยเร็วคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ขอฝากเตือนอย่าให้พี่น้องประชาชนตระหนักในเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องระดับประเทศ ที่ทุกฝ่ายต้องหาข้อยุติ แต่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อย่าได้นำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุย ขยายความจนกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่