จีนยันร่วมไทยลุยปราบสลัดแม่น้ำโขง

จีนยันร่วมไทยลุยปราบสลัดแม่น้ำโขงหลังพบ"หน่อคำสอง"โผล่มีพฤติกรรมเหมือนหน่อคำที่ถูกประหารชีวิต

พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย ได้ให้การต้อนรับคณะของนายหลี จิ้น โปว รองผู้บัญชาการตำรวจเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ ซึ่งเดินทางไปกระชับความร่วมมือกับตำรวจ จ.เชียงราย ในการดูแลรักษาความปลอดภัยด้านความมั่นคงและคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นลุ่มแม่น้ำโขง หลังเกิดคดีปล้นเรือสินค้าจีนในแม่น้ำโขง 2 ลำและฆ่าลูกเรือ 13 ศพ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2554 จนล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ทางการจีนได้ประหารชีวิตนายหน่อคำ ชาวพม่าเชื้อสายไทใหญ่และลูกสมุนอีก 3 คนซึ่งก่อเหตุดังกล่าวแล้ว โดยในครั้งนี้ทางนายหลี จิ้น โปว ได้ยื่นร่างเอกสารความร่วมมือของตำรวจสิบสองปันนาให้กับ พล.ต.ต.วันชัย เพื่อนำไปพิจารณาและนำเสนอผู้บังคับบัญชาไปตามขั้นตอนโดยเป็นรายละเอียดความร่วมมือดังกล่าว นอกเหนือไปจากการจัดตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) ทั้ง 4 ชาติไปก่อนหน้านี้แล้วโดย จ.เชียงราย ตั้งเป็น ศปปข.ส่วนหน้าที่ท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1

นายหลี จิ้น โปว กล่าวว่า จ.เชียงราย ถือเป็นพื้นที่ประเทศไทยที่อยู่ใกล้กับประเทศจีนมากที่สุดดังนั้นจึงเห็นควรให้เกิดความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจสิบสองปันนา จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) ที่ดูแลพื้นที่อยู่ ซึ่งร่างดังกล่าวจะมีการนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน ถึงระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากนั้นถ้าทันลงนามร่วมกันหลังเทศกาลสงกรานต์ทางการจีนก็จะปล่อยเรือสินค้าแม่น้ำโขงให้กลับลงมาขนส่งสินค้าอย่างคึกคักได้ตามปกติ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าวันเดียวกัน นายหลี จิ้น โปว ได้นำคณะเดินทางไปพบปะหารือกับทางคณะอัยการ จ.เชียงราย ซึ่งดูแลคดีเกี่ยวกับทหารไทย 9 นายที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกันกับนายหน่อคำ โดยปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนซึ่งอยู่ในการดูแลของอัยการสูงสุด ขณะที่การไต่สวนชันสูตรพลิกศพโดยศาล จ.เชียงราย ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ นายหลี จิ้น โปว ยังเดินทางไปยังชายแดนแม่น้ำโขงด้าน อ.เชียงแสน เพื่อดู ศปปข.ส่วนหน้า และติดตามคดีฉ้อโกงที่เกิดกับพ่อค้าชาวจีนเมื่อปี 2554 โดยปัจจุบันทางการไทยออกหมายจับบุคคลที่ไปฉ้อโกงพ่อค้าจีนรายดังกล่าวแล้วเพราะได้หลบหนีไป

ด้านนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค 5 กล่าวว่าภายหลังจากสิ้นนายหน่อคำไปแล้วพบว่าได้มีกลุ่มใหม่เกิดขึ้นมาแทนแล้ว โดยเป็นกลุ่มอาสาสมัครชาวมูเซอชื่อว่ากลุ่มของนาย "จะสีโบ" ชนกลุ่มน้อยชาวมูเซอ โดยพบมีการเคลื่อนไหวอยู่แถบเมืองป๊อกตั้งแต่บ้านสามพูซึ่งกลุ่มของนายหน่อคำเคยวางกำลังอยู่ กลุ่มนี้มีกองกำลังติดอาวุธอยู่ประมาณ 40-50 นาย เคลื่อนไหวจากบ้านสามพูไปทางทิศเหนือประมาณ 7-8 กิโลเมตร มีพฤติกรรมในการเก็บค่าผ่านทางหรือค่าคุ้มครองจากเรือในแม่น้ำโขงที่แล่นผ่านไปมาเช่นเดียวกัน

นายวิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับสถานกาณณ์ยาเสพติดในปัจจุบันพบว่าพบรูปแบบเม็ดและบรรจุภัณฑ์ยาบ้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบางเม็ดเป็นรูปหงส์ 5 ดาว ซึ่งเพิ่งพบเป็นครั้งแรกในการตรวจยึดที่ อ.เชียงของ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา และกลางเดือน ก.พ. ก็พบที่ จ.พิษณุโลก อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตามลำดับ เชื่อว่าเกิดจากการที่กลุ่มผู้ผลิตแต่ละรายต้องการให้ทราบว่าของกลางยาเสพติดของตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดจับกุมได้แล้วหรือไม่ แต่สรรพคุณและคุณสมบัติของเม็ดยาบ้ายังคงเหมือนเดิม