จนท.ราชบุรีสกัดลักลอบค้าเนื้อค่างเทา
เจ้าหน้าที่จับพ่อค้าเนื้อค่างเทาสัตว์ป่าคุ้มครองได้ของกลางมากกว่า 40 ตัว
เจ้าหน้าที่จับพ่อค้าเนื้อค่างเทาสัตว์ป่าคุ้มครองได้ของกลางมากกว่า 40 ตัว
นายรังสรรค์ ตันเจริญ นายอําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้เข้าไปตรวจดูของกลางซึ่งเป็นซากเนื้อค่างเทาสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมอวัยวะเครื่องในจํานวนมาก ที่บริเวณบ้านห้วยผาก ช่องทางบ้านโป่งแห้ง หมู่ที่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี หลังจาก ร.ท.สุทิน ก่ำภัคสร หัวหน้าชุดปฏิบัติการสวนป่า กองพลพัฒนาที่ 1 สนธิกำลังร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจค่ายทัพยาเสือ กองกําลังสุรสีห์ อําเภอสวนผึ้ง กรมทหารพรานที่ 14 ตํารวจภูธร สภ.สวนผึ้ง
ตํารวจตระเวนชายแดนที่ 173 อําเภอสวนผึ้ง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่นํ้าภาชี พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง ได้ร่วมกันตรวจค้นจับกุมรถยนต์ต้องสงสัยคาดว่าค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองได้ หลังสืบทราบว่ามีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าตอนครึ่ง สีบรอนด์ทอง ทะเบียน บท-376 ประจวบคีรีขันธ์ ตามสายที่รายงานมีการลักลอบนําซากสัตว์ป่าออกมาช่วงเวลาตี 5 เช้าที่ผ่านมา
จึงได้ร่วมกันตั้งด่านปิดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน จนพบรถยนต์คันดังกล่าว จึงขอตรวจค้นภายในรถ พบนายทีบ่อ ซาแบ้ อายุ 26 ปี ชาวกะเหรี่ยง อยู่บ้านเลขที่ 71 บ้านห้วยผาก หมู่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง เป็นคนขับ จากการตรวจค้นบริเวณท้ายรถกระบะพบถุงปุ๋ยจำนวน 4 ถุง ที่มีถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ภายในถุงพลาสติกบรรจุเนื้อและอวัยวะค่างเทาที่ผ่านการหมักเกลือแล้วจำนวน 206 กิโลกรัม หรือประมาณ 42 ตัว มูลค่ากว่า 80,000 บาท โดยค่างเทา 1 ตัว จะมีน้ำหนักประมาณ 6-8 กิโลกรัม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ในป่าบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี จากการสืบสวนเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการลักลอบล่าสัตว์ป่าบริเวณเขตรอยต่อประเทศเพื่อนบ้านหลายชนิด ทั้งเลียงผา เก้งหม้อ กวาง และค่างเพื่อส่งขายตามร้านอาหาร
สอบสวนนายทีบ่อ ซาแบ้ ชาวกะเหรี่ยงที่ถูกจับกุม ให้การรับสารภาพว่า เป็นเพียงคนขับรถรับจ้างนำเนื้อและมูลค่างไปส่งต่อให้กับพ่อค้าอีกทอดหนึ่ง โดยนัดหมายกันบริเวณถนนทางเข้าหน้าศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านถ้ำหิน หมู่ที่ 5 ตำบลสวนผึ้ง ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 1,500 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งดำเนินคดี ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองและมีไว้เพื่อค้าซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ