ประมงเรือเล็กประท้วงเรือคราดหอย

กลุ่มประมงเรือเล็กรวมตัวประท้วงเรือคราดหอยกว่า 30 ลำห่างฝั่งแค่ ไม่ถึง 1 กม.

กลุ่มชาวประมงเรือเล็กชายฝั่งเกือบ 200 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณสถานีตำรวจน้ำปราณบุรี ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์  เพื่อแจ้งความกับตำรวจน้ำให้ติดตามจับกุมเรือคราดหอยลายต่างถิ่น ลักลอบเข้ามาคราดหอยลายในแนวเขตอนุรักษ์ 3,000 เมตรบริเวณอ่าวปากน้ำปราณ ตั้งแต่บริเวณคุ้งทรายใหญ่ จนถึงหน้าปากคลองปราณ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับชาวประมงที่ออกไปวางเครื่องมือประมงเพื่อจับสัตว์น้ำแต่ไม่สามารถจับสัตว์น้ำอะไรได้เลย แถมเครื่องมือจำนวนมาก ทั้ง ลอบปู 5,000 ปากอวนปูม้า 2,000 ปาก และลอบหอยสังข์ ประมาณ 3,000 ตัว เสียหาย คิดเป็นมูลค่าหลายแสนบาท

นายเจือ แพใหญ่ ชาวต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำปราณ กล่าวว่า  ปัญหาที่สำคัญมากไปกว่าเครื่องมือทำการประมงเสียหาย คือ เรือคราดหอยลายทำให้หน้าดินถูกทำลายทั้งหมดโคลนดินได้ฟุ้งกระจาย ส่งกลิ่นเหม็น จนทำให้สัตว์น้ำไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ชาวประมงจึงรวมตัวกันร้องเรียนกับตำรวจน้ำให้เร่งติดตามดำเนินการจับกุมเรือคราดหอยลายมาดำเนินคดีและชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านทั้งหมดด้วย

นายเกรียงไกร  บุญคล้อย  ชาวประมงเรือเล็ก อาชีพ ลอบปู กล่าวว่า ขณะกำลังออกเรือไปเก็บลอบปู พบว่าเรือคราดหอยลายได้เข้ามาคราดหอยกันอย่างเปิดเผยโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เมื่อเห็นเรือคราดหอยจึงได้รีบไปยังจุดที่วางลอบปูไว้ เพื่อเร่งมือเก็บอวนปูกว่า 600 ใบแต่พบว่าเสียหายหมดแล้ว ซึ่งเฉพาะอวนปูที่เสียหายมูลค่ากว่า 60,000 บาทแล้ว ส่วนปูม้าที่ไม่สามารถจับได้ประมาณ10-20 กิโลกรัม โดยปกติต้องมีรายได้วันละ 2,000-3,000 บาทต่อวันก็หายไปด้วยเช่นกัน ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก

ด้าน พ.ต.ท.ขจรยศ  ทรงประดิษฐ์  สารวัตรป้องกันปราบปราม ตำรวจน้ำปราณบุรี กล่าวว่า จะรวบรวมความเสียหายทั้งหมด ตลอดจนอุปกรณ์ทำประมงที่เสียหายด้วย และประสานไปยังกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกันดำเนินการติดตามแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงทั้งหมด โดยขณะนี้มีชาวประมงมาแจ้งความไว้แล้วจำนวน 16 ราย และคาดว่า จะทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ