posttoday

หลวงพ่อคูณต้องรับยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง

16 มกราคม 2556

คณะแพทย์ ระบุ หลวงพ่อคูณต้องรับยาปฏิชีวนะผ่านหลอดเลือดดำให้ครบ 10 วัน พร้อมสั่งควบคุมอุณหภูมิห้องพักหลวงพ่อคูณ หวั่น ทรุดตัว

คณะแพทย์ ระบุ หลวงพ่อคูณต้องรับยาปฏิชีวนะผ่านหลอดเลือดดำให้ครบ 10 วัน พร้อมสั่งควบคุมอุณหภูมิห้องพักหลวงพ่อคูณ หวั่น ทรุดตัว

นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้าพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดบวม จากการติดเชื้อแบคทีเรีย อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ย.55  ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 1 เดือน

ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 16 ม.ค.2556 ) ที่ห้อง 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา นายแพทย์ นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการล่าสุดของหลวงพ่อคูณฯ เช้าวันนี้อาการไข้ของหลวงพ่อคูณวัดได้อยู่ที่ 36.5 องศาเซลเซียส  ซึ่งถือได้ว่ากลับเข้าสู่สภาวะปกติ ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ แต่ยังคงมีเสมหะอยู่มาก ทั้งนี้คณะแพทย์ยังคงต้องการทำการเขย่าปอดเพื่อทำการดูเสมหะทุกๆวัน  ส่วนอาการท่อปัสสาวะอักเสบ คณะแพทย์ยังคงให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำ อย่างน้อย 7-10 วัน ซึ่งหลวงพ่อคูณ เพิ่งจะได้รับยาปฏิชีวนะเป็นวันที่ 6 ซึ่งยังเหลืออีก 4 วันที่หลวงพ่อคูณ ยังต้องรับย่าผ่านทางหลอดเลือดดำ ทั้งนี้จากการที่หลวงพ่อคูณรับยาปฏิชีวนะมา 6 วัน อาการโดยรวมจากการประเมินขอคณะแพทย์ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ 

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวนบ่อยทำให้คณะแพทย์จึงต้องดูแลหลวงพ่อคูณเป็นพิเศษ เนื่องจากหลวงพ่อคูณอายุมากแล้ว อีกทั้งโรคประจำของหลวงพ่อคูณก็มีหลายโรค จึงจำเป็นที่จะต้องมีการรักษาอุณหภูมิภายในห้องพักของหลวงพ่อคูณ ไม่ให้มีอาการที่หนาวเย็นเกินไป และไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป จึงได้นำเครื่องกรองอากาศและเครื่องทำความร้อน มาติดตั้งที่ห้องพักของหลวงพ่อคูณ แต่หากสภาพอากาศภายนอกหนาวเย็นมาทางคณะแพทย์ก็ได้กำชับให้ลูกศิษย์สวมนำหมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อคลุม เพื่อทำให้ร่างกายของหกลวงพ่อคูณอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา

น.พ.พินิศจัยฯกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการกลับวัดบ้านไร่ ของหลวงพ่อคูณ คณะแพทย์คาดว่า หากหลวงพ่อคูณ รับยาปฏิชีวนะครบตามกำหนด ก็จะต้องมีการประเมินสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากในช่วงนี้สภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณพร้อมที่จะกลับวัด คณะแพทย์ก็ยังไม่สามารถให้หลวงพ่อคูณกลับวัดได้ เนื่องจะต้องรอการปรับปรุงกุฏิของหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนมกราคม นี้ เนื่องจากหากยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อหลวงพ่อคูณเดินทางกลับวัดบ้านไร่ ไม่มีห้องที่เหมาะแก่หลวงพ่อคูณ ก็จะทำให้หลวงพ่อคูณกลับมาทรุดอีกครั้ง และตนเชื่อว่าหากหลวงพ่อคูณทรุดก็ยิ่งจะเป็นผลเสียที่จะตามมาแก่หลวงพ่อคูณ นพ.พินิศจัยฯกล่าว