posttoday

คืนทรัพย์ร้านทองสุไหงปาดีนราฯกว่า16ล้านบาท

10 พฤศจิกายน 2555

ปปง. คืนทรัพย์ ร้านทองภูสวรรณสุไหงปาดี นราธิวาส กว่า 16 ล้านบาท หลังก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ ใช้กฏอัยการศึกยึดทรัพย์ กล่าวหาฟอกเงิน ท่อน้ำเลี้ยงโจรใต้

ปปง. คืนทรัพย์ ร้านทองภูสวรรณสุไหงปาดี นราธิวาส กว่า 16 ล้านบาท หลังก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ ใช้กฏอัยการศึกยึดทรัพย์ กล่าวหาฟอกเงิน ท่อน้ำเลี้ยงโจรใต้

ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. นายสุริยัน พงศ์มานะวุฒิ เจ้าของห้างทองทองภู่สุวรรณ เลขที่ 216 ถนนจารุเสถียร เขตเทศบาล ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายทองคำรูปพรรณ พร้อมด้วยนายนายวินิจ นราธิปภัทร ทนายความ ได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานบริหารและจัดการทรัพย์สิน (ปปง) เพื่อขอรับคืนทรัพย์สิน จากกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2555 กำลังเจ้าหน้าที่ ปปง.เจ้าหน้าที่ กอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่ สนธิกำลัง ใช้กฎอัยการศึก เข้าตรวจค้นร้านทองภู่สุวรรณ และได้ทำการยึดทรัพย์สิน เป็นทองรูปพรรณและเงินสด รวมทั้งหมดประมาณ 16 ล้านบาท  โดยตั้งข้อกล่าวหานายสุริยัน ทำหน้าที่ฟอกเงินเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และนำเงินช่วยเหลือ หรือ เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้

ทนายความ ร้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า การใช้กฎอัยการศึก ตรวจค้นและยึดทรัพย์สิน ร้านทองภูสุวรรณ ซึ่งเป็นเงินสดและทองรูปพรรณ ประมาณ 16 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 55 บัดนี้ล่วงเลยกว่า 90 วัน ที่อำนาจ ปปง.จะตรวจสอบ และขณะนี้ จะการสอบสวนและตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปอัยการแล้ว และอัยการได้ดูสำนวน ไม่ส่งฟ้องเนื่องจาก เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างที่ถูกกล่าวหา และชี้ชัดว่า นายสุริยัน เจ้าของร้านภู่สุวรณ เป็นผู้ความบริสุทธิ์ประกอบอาชีพสุจรติ  จึงมาพบเจ้าหน้าที่ ปปง.เพื่อขอคืนทรัพย์สินทั้งหมด เนื่องจาก ปปง.หมดอำนาจในการดูแลทรัพย์สินดังกล่าวและต้องคืนเจ้าของแล้ว

ด้านเจ้าของร้านทองภูสุวรรณ กล่าวว่า ตนต้องการเพียงความเป็นธรรม ซึ่งตนเองและตระกูลประกอบอาชีพสุจริตชนชั่วชีวิต โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย มีการก่อเหตุความบ่อยครั้ง การที่เจ้าหน้าที่ใช้กฏอัยการศึก ตรวจค้นในความรู้สึกนั้น เสียใจมาก ที่ตนต้องถูกโยงเกี่ยงข้องกับการฟอกเงิน หรือเป็นท่อนำเลี้ยงผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ “มันเสียชื่อเสียง ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” ญาติพี่น้อง มิตรสหาย โทรถามเรื่องดังกล่าว บ้างคนเข้าใจแต่บ้างคนบอกว่า สื่อทีวี หนังสือพิมพ์ออกไปแล้ว เข้าดูทั่วประเทศ จึงอยากขอพื้นที่สื่อบางว่า เมื่อตนไม่อัยการถูกสั่งฟ้องศาล และเป็นผู้บริสุทธิแล้ว สื่อควรบอกกับคนในประเทศด้วย เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และขณะนี้ตนยังไม่ได้ประกอบอาชีพหลายเดือนแล้ว สภาพคนตกงานไร้งาน เพราะโดยยึดทรัพย์ อย่างไรก็ตามขอขอบคุณ คณะกรรมการ ปปง.ที่จะคืนทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งตนไม่ได้ติดใจอะไร ขอเพียงความเป็นธรรมเท่านั้น

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ สำนักงานบริหารและจัดการทรัพย์สิน (ปปง.) ได้เรียกนายสุริยันและทนายความที่เกี่ยวข้อง กรณียึดทรัพย์ร้านทองภูสุวรรณ เพื่อตรวจสอบและนับทรัพย์สิน ซึ่ง ปปงเก็บรักษาไว้ โดยมีเงินสด จำนวน 570,000 บาท และทองรูปพรรณหลายรายการจำนวนมูลค่า 16 ล้านบาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วม ตรวจสอบทรัพย์สินให้ถูกต้อง ก่อนเจ้าหน้าที่ ปปง.และเจ้าของร้านทองภู่สุวรรณ จะร่วมลงมือชื่อรับทราบ และรับของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึด และคืนเจ้าของร้านดังกล่าว 

โดยนายวินิจ ทนายความว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินที่ เจ้าหน้าที่ ปปง.ยึดไว้นั้น มีบางส่วนบางรายการ หายไปและไม่ครบ แต่ไม่มากมายนัก โดยทาง ปปง.ได้ให้คำตอบว่า จะติดตามและดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ว่าทรัพย์สินสินที่ยึด จากร้านทองภูสุวรรณ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นั้นหายไปในช่วงขั้นตอนไหน หรือจะหาย ช่วงในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ หรือไม่อย่างไร ซึ่งจะติดตามคืนเจ้าของต่อไป

คืนทรัพย์ร้านทองสุไหงปาดีนราฯกว่า16ล้านบาท