โคราชแล้งข้าวโพดเฉาตายกว่า500ไร่

โคราชแล้งจัดเกษตรกรเศร้าขาดทุนยับข้าวโพดยืนต้นตายแล้วกว่า 500 ไร่

วันนี้(24ต.ค.)สถานการณ์ภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหลือ เริ่มลุกลามไปหลายพื้นที่ของจ.นครราชสีมา ส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายแล้วกว่า 2 แสนไร่ โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพด ของชาวบ้านจานเหนือ หมู่ 13 ต.กำปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ขณะนี้ต้นข้าวโพดกว่า 500 ไร่ กำลังแห้งเฉา ดอกร่วง และกำลังจะยืนต้นตาย ภายหลังจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
 
นายรุณ ตันสันเทียะ  ชาวบ้านจานเหนือ หมู่ 13 ต.กำปัง อ.โนนไทย กล่าวว่า ไร่ข้าวโพดจำนวน 11 ไร่ อยู่ในที่ดอนห่างจากแหล่งน้ำธรรมชาติกว่า 2 กิโลเมตร จึงต้องอาศัยน้ำฝนมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวโพดเหล่านี้อย่างเดียว ซึ่งทุกปีก็จะมีฝนตกต่อเนื่องจนสิ้นเดือนต.ค.ถึงต้นเดือนพ.ย.แต่ปีนี้ปรากฏว่าฝนได้ทิ้งช่วงมาตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา ส่งผลให้ต้นข้าวโพดซึ่งกำลังออกดอก และใกล้จะติดฝัก ขาดน้ำนานกว่า 2 เดือนแล้ว ดังนั้นใบข้าวโพดจึงเริ่มแห้งเหี่ยว และดอกข้าวโพดก็เริ่มร่วงโรย ทำให้ไม่ติดฝัก สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเป็นอย่างมาก
 
นายรุณ กล่าวอีกว่า เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนก็พยายามติดต่อหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขอรถดับเพลิงสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อมารดไร่ข้าวโพด ช่วยไม่ให้ใบแห้งเฉา และดอกไม่ร่วงโรย โดยทุกคนพร้อมออกเงินค่าน้ำมันให้ แต่ปรากฏว่าพื้นที่ประสบภัยแล้ง ทั้งนาข้าว และไร่ข้าวโพด มีจำนวนหลายพันไร่ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงไม่รู้จะไปพึ่งหน่วยงานใด เพราะหากปล่อยให้ขาดน้ำเช่นนี้ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ต้นข้าวโพดเหล่านี้ก็จะยืนต้นตายแน่นอน และตนก็ต้องสูญเสียเงินทุนค่าเพาะปลูกกว่า 1 แสนบาทด้วย
 
ด้านนางเรไร โอนสันเทียะ เกษตรกรบ้านจานเหนือ ต.กำปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ไร่ข้าวโพดใน ต.กำปัง อ.โนนไทย กว่า 500 ไร่ กำลังออกดอก และใกล้จะติดฝักเต็มที โดยได้กู้เงินจาก ธกส. กว่า 1 แสนบาท เพื่อมาซื้อปุ๋ย ซื้อยา และค่าหว่าน ไถ จนเกือบจะได้เก็บเกี่ยวแล้ว แต่ปรากฏว่าฝนได้ทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน ทำให้ต้นข้าวโพดเหล่านี้ใกล้ยืนต้นตาย ซึ่งก็จะทำให้ต้องขาดทุน และติดหนี้ ธกส. กว่า 1 แสนบาท ตอนนี้ก็หวังเพียงหน่วยงานภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือ นำรถดับเพลิงสูบน้ำมาฉีดให้บ้าง เพื่อให้ข้าวโพดติดฝัก เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลผลิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็หวังเพียงได้ทุนคืนก็พอ
 
ขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ ประสิทธิ์สุวรรณ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรายงานเบื้อนต้นว่ามีพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้วกว่า 270,000 ไร่ ใน 6 อำเภอ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรทั้ง 32 อำเภอ เร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และส่งข้อมูลพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด มาให้สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบอย่างหนัก ก็จะประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เพื่อของบประมาณจากรัฐบาล ชดเชยความเสียหายตามระเบียบของกระทรวงการคลังต่อไป นายเฉลิมศักดิ์ กล่าว.