posttoday

ชวนใช้สิทธิเลือกตั้งส.อบจ.ตรัง

21 ตุลาคม 2555

"ชวน"ใช้สิทธิเลือกตั้งส.อบจ.ตรังไม่กังกวลปชป.ส่งผู้สมัครลงแข่งกับพี่ชายใน3อำเภอ6เขตขึ้นอยู่กับประชาชน

"ชวน"ใช้สิทธิเลือกตั้งส.อบจ.ตรังไม่กังกวลปชป.ส่งผู้สมัครลงแข่งกับพี่ชายใน3อำเภอ6เขตขึ้นอยู่กับประชาชน

ชวนใช้สิทธิเลือกตั้งส.อบจ.ตรัง ชวน หลีกภัย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ต.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.  ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ส.อบจ.ตรัง  ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 4  ที่ห้องประชุมใต้อาคารเรียน 6 โรงเรียนวัดควนวิเศษ (2) เขตเทศบาลนครตรัง  ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพู และกางเกงสแล็คสีเทา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส  แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้มาใช้สิทธิ์บางตา

ภายหลังจากใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จแล้ว  นายชวน ได้ทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง  ก่อนจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยฝากให้ผู้สมัคร  ไม่ว่าจะระดับชาติ หรือการเมืองท้องถิ่น ที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่  ต้องทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สุจริต โดยให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง  เพราะถ้าหากมองแต่ประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียวแล้ว จะทำให้เกิดผลกระทบ  และอาจทำให้ประเทศชาติไม่ได้ประโยชน์ใดเลย

นายชวน กล่าวว่า ที่ผ่านมาระบบการเมืองของไทย มักจะมีปัญหาเรื่องของความไม่ชอบธรรม และการทุจริงเป็นส่วนใหญ่  แต่สำหรับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นส่วนที่ใกล้ชิด และรู้ปัญหาของชาวบ้านได้ดีกว่า ก็ต้องยึดถือความรับผิดชอบเป็นที่ตั้ง  ขณะเดียวกันก็ต้องให้กำลังใจผู้ที่ยึดถือความถูกต้อง  อย่าลืมว่าบ้านเมืองเรามีทั้งคนดีและไม่ดี  ถ้าเห็นคนไม่ดีบางคน แล้วจะประเมินว่า ไม่ดีทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียหาย

เมื่อถามว่า การเลือกตั้ง ส.อบจ.ตรัง ครั้งนี้  ทางพรรค ปชป.ได้ส่งคนลงสมัครในเขตพื้นที่ อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ และ อ.รัษฎา 6 เขต  แข่งกับทีมกิจปวงชน ซึ่งนำโดย นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลหลีกภัย นั้น  นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องของประชาชนที่จะตัดสินเอง ไม่น่ากังวล  เพราะตนไม่สามารถเข้าไปกำหนดเองได้  ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นหลัก

ส่วนจะสะท้อนฐานการเมืองท้องถิ่นหรือไม่  นายชวน ระบุว่า โดยพื้นฐานการเมืองท้องถิ่น จ.ตรัง จะเห็นได้ว่า หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่างๆ พยายามรณรงค์ทำให้การเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และยึดหลักความถูกต้องมาตลอดระยะเวลา 50 ปี  จึงทำให้เป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจไม่มีการซื้อเสียง  แต่ถ้าจะให้พูดว่าคนตรังใช้เงินซื้อเสียงไม่ได้นั้น ก็คงไม่ใช่  แต่ควรจะพูดว่า คนตรังใช้เงินซื้อเสียงยากมากกว่า