ตลาด3จังหวัดใต้เหงา-ร้านค้าบางตาผวาโจรขู่

ตลาดสดยะลาเช้านี้ยังเหงา ร้านค้าออกมาขายสินค้าบางตา หลังมีข่าวลือห้ามขายของวันศุกร์ ส่วน จ.นราฯร้านปิดเกือบหมด ลามถึงรถตู้ 4 จังหวัดใต้เป็นอัมพาตหยุดให้บริการ 100 %

จากกรณีมีข่าวลือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม หยุดทำงาน หยุดค้าขายทุกวันศุกร์ โดยจะไม่รับประกันในความปลอดภัย แพร่กระจายในพื้นที่

ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 06.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดสดพิมลชัย เทศบาลนครยะลา บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้ายังคงปิดร้านกันเป็นจำนวนมาก กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวไทยมุสลิม ที่ออกมาขายของกันบางตา ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงกลัวกับคำขู่ของกลุ่มคนร้าย

โดยนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางอนงค์ศรี สิมศิริ นายกเหล่ากาชาดยะลา พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่จำหน่ายสินค้าอยู่ภายในตลาด โดยพ่อค้าแม่ค้าที่ออกมาจำหน่ายสินค้าในวันนี้ ต่างมีความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ แต่ได้ร้องขอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้ดูแลรักษาความปลอดภัยกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นใจ

สำหรับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น ทางหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 สนธิกำลังตำรวจ และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังโดยรอบเขตเทศบาลนครยะลา ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคคลเป้าหมาย อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการก่อเหตุของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง และสร้างความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เขตเมือง

ตลาดสดพิมลชัยจ.ยะลา

ส่วนที่ จ.นราธิวาส ร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสและอำเภอใกล้เคียงอาทิ ยี่งอ บาเจาะและระแงะ พบว่าผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย รถ จยย. ร้านอาหาร ร้านทองรวมถึงร้านข้าวแกงร้านอาหารตารมสั่งและแม่ค้าที่เปิดแผงลอยขายสินค้าภายในตลาดสด หยุดกกิจการโดยภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 70 และเมื่อเปรียบเทียบกับวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการปิดกิจการเพิ่มเป็น 2 เท่าจนทำให้ย่านธุรกิจที่สำคัญๆของแต่ละอำเภอต้องกลายสภาพเป็นเมืองร้างถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารแบ่งสายเดินออกประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความมั่นใจแล้วก็ตามและที่สำคัญเป็นผลพวงที่เกิดผลกระทบจากการข่มขู่ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีคือ รถยนต์ตู้โดยสารประจำทางวิ่งรับส่งผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจ.นราธิวาส จรดปลายทาง จ.ยะลา ปัตตานี และอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลาซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 300 คัน ได้หยุดให้บริการประชาชน 100เปอร์เซ็นต์ จนสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นราธิวาสกลายสภาพเป็นสถานีขนส่งร้าง

จากการสอบถามนายสุวัฒน์ แซ่จูประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการ ทราบว่าเมื่อรถยนต์ตู้ปิดให้บริการจำเป็นต้องซื้อตั๋วรถทัวร์สาย กรุงเทพฯเพื่อเดินทางไปทำธุระในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แทนถึงแม้จะล่าช้ากว่ารถยนต์ตู้แต่มีความจำเป็นต้องเดินทางจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และเมื่อทำธุระแล้วเสร็จก็อาจจะต้องเลี่ยงไปใช้ขบวนรถไฟกลับบ้านพักที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสแต่ต้องเสียเวลาในการขึ้นรถหลายต่อหน่อยกว่าจะถึงบ้านอยู่ภาคใต้ต้องทำใจและต้องปรับสภาพให้ได้

ที่จ.ปัตตานี  บริเวณตลาดเทศวิวัฒน์1 ซึ่งเป็นตลาดสดเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งปกติ จะมีพ่อค้าแม่ต้ามาขายเป้นจำนวนมากจนล้นตลาด  การสัญจรไปมาบนถนนหน้าตลาดไม่คล่องตัว  ปรากฏว่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่พ่อค้าแม่ค้า พุทธมุสลิม ต่างหยุดขาย มีเพียง 10 แผง ที่ยังขาย อยู่  ถนนหน้าตลาดโล่ง  ทำให้บรรยากาศของตลาดสดดังกล่าว เงียบเหงากว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา  

ตลาดเทศบาลเมืองปัตตานี