posttoday

เตือนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเกาะติดสถานการณ์น้ำ

25 กันยายน 2555

กรมชลประทานเตือนประชาชนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาติดตามสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกปริมาณมาก

กรมชลประทานเตือนประชาชนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาติดตามสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกปริมาณมาก

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ  กรมชลประทาน  เตือนประชาชน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางในระยะนี้หลังจากฝนตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนปริมาณมาก   อาจจะส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง มากขึ้น ซึ่งกรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมทั้งในด้านของกำลังคน เครื่องจักรเครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำที่พร้อมจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย

สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง     เนื่องจากทางตอนบนของลุ่มน้ำมีฝนตกลดลง  และตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้พร่องน้ำเพื่อดึงน้ำจากทางตอนบนของแม่น้ำเจ้าพระยา ระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อลดการสะสมของปริมาณน้ำที่อาจจะส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งได้

ทั้งนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ อยู่ที่ 1,469 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.69  เมตรลดลงจากวานนี้  เขื่อนเจ้าพระยา  มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,517 ลบ.ม.ต่อวินาที  ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 3.09 เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ1,776  ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.36 เมตร

ด้าน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เปิดเผยว่ากรมชลประทานได้เตรียมมาตรการรับมือปริมาณฝนที่จะตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ไว้ล่วงหน้าแล้ว ประกอบด้วย1.การลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพื่อเตรียมพื้นที่รับน้ำฝนที่จะเข้ามาเพิ่ม

2. กรณีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางจะชะลอน้ำไว้เหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้น้ำท่าสามารถระบายลงแม่น้ำสายหลักได้อย่างรวดเร็ว   3. กรณีมีปริมาณฝนตกในทุ่งเจ้าพระยาเกิดน้ำค้างทุ่ง หากน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักมีระดับนำสูงจะยังไม่มีการระบายน้ำจากทุ่งออกมาจนกว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักอยู่ในระดับต่ำหรือระดับปกติจึงจะทยอยโรยน้ำออกสู่แม่น้ำสายหลัก

"จากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในระดับ  1,517 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ ไม่น่าเป็นห่วง จึงไม่นำเป็นที่จะต้องนำน้ำเข้าแก้มลิงที่เตรียมไว้ 2.1 ล้านไร่ อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาปริมาณฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง"นายสุเทพกล่าว