ขยายท่อระบายน้ำเมืองกรุงเป็นไปได้ยาก

กทม.หวั่นขยายท่อระบายน้ำ ทำเมืองกรุงวินาศสันตะโร สูญงบนับหมื่นล้าน ระบุเป็นไปได้ยาก ถกกรมชลฯ รับมือน้ำท่วมฝั่งตะวันออก จี้ มท.ทำหนังสือแจงจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า การระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม.จะต้องระบายน้ำลงสู่คลองย่อยและคลองหลัก เพื่อดึงน้ำเข้าสู่ระบบอุโมงค์ยักษ์ของ กทม. แต่ระบบท่อระบายน้ำมีข้อจำกัด เนื่องจากมีการออกแบบให้รองรับน้ำได้ที่ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง (มม./ชม.) เท่านั้น หากปริมาณฝนตกมากกว่านี้ก็จะต้องใช้เวลาในการระบายนานขึ้น ดังนั้นการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการขยายระบบท่อให้รองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้นตามปริมาณฝนที่ตกลงมาคือ 80 -100 มม./ชม.

อย่างไรก็ตาม นายสัญญา กล่าวว่า การขยายระบบท่อต้องใช้งบประมาณจำนวนมากนับหมื่นๆ ล้านบาท และรื้อระบบท่อใหม่ทั้งเมือง ซึ่งอาจต้องรื้อถนนและส่งผลกระทบกับการจราจรทั้งเมือง ส่วนในซอยย่อยก็ไม่สามารถทำได้ จึงถือว่าเป็นไปได้ยากมาก

นายสัญญา กล่าวว่า การแก้ปัญหาระบบท่อระบายน้ำในเบื้องต้น กทม.ได้มีการวางแผนให้ถนนที่จะสร้างขึ้นใหม่มีการวางท่อระบายน้ำให้กว้างและรองรับน้ำได้ปริมาณ 80-100 มม./ชม. ส่วนพื้นที่ด้านตะวันออก เช่น บางเขน รามอินทรา ขณะนี้เมืองยังไม่หนาแน่นจึงสามารถรื้อขยายท่อได้ แต่พื้นที่เมืองชั้นในคงไม่สามารถขยายได้เนื่องจากมีข้อจำกัด

ทั้งนี้ นายสัญญา กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนหลายสายของ กทม.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 80-100 มม./ชม. และตกในพื้นที่เดิมๆ ที่มีปัญหาจึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และต้องใช้เวลาในการระบายน้ำให้แห้ง 2-3 ชั่วโมง นอกจากนี้ กทม.ยังมีปัญหาดินทรุด ทำให้ความลาดเอียงในการระบายน้ำเปลี่ยนไป และส่งผลให้ท่อระบายน้ำมีลักษณะตกท้องช้าง น้ำไม่สามารถไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำได้เหมือนเดิม จึงต้องอาศัยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออก

ด้านนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ได้ประชุมร่วมกับกรมชลประทานเพื่อหาแนวทางการระบายน้ำบริเวณรอยต่อด้านตะวันออกของ กทม.กับจังหวัดปริมณฑล เช่น จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมชลประทาน โดยได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในพื้นที่ กทม.หลายจุดเกิดน้ำท่วมขัง

นายวัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.และกรมชลประทานได้ประสานความร่วมมือในการรักษาระดับน้ำบริเวณด้านนอกและด้านในของประตูระบายน้ำทุกจุด อีกทั้งกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมบริเวณบางนา-ตราด คลองลาดกระบัง คลองบางเสาธง คลองพระองค์เจ้าไชยยานุชิตและจุดตัดทางรถไฟ รวมถึงคลองสายหลักด้านตะวันออก เช่น คลองสุวรรณภูมิ คลองชลหารพิจิตร คลองท่าไข่ คลองบางขนาบ คลองสมบูรณ์ และคลองเสาวภา พร้อมทั้งเดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลัง เพื่อลดระดับน้ำในคลองต่างๆ ตลอดจนดาดท้องคลองด้วยคอนกรีตเพิ่มอัตราการไหลของน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อดึงน้ำจากพื้นที่สู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม. กล่าวว่า ตามที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่าได้ประสานให้ กทม.สำรองจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมไปก่อน 1,100 ล้านบาท แล้วรัฐบาลจะชดใช้คืนให้ในภายหลังนั้น ทาง กทม.ขอให้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหาก กทม.ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการแล้วจะรีบจัดสรรงบประมาณเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินกว่า 1 แสนคนทันที