posttoday

นร.หญิงม.4ชกมวยหาเลี้ยงแม่

29 สิงหาคม 2555

พบสาว15เมืองช้างยอดกตัญญูสู้ชีวิตชกมวยหารายได้เลี้ยงแม่ ค่าเล่าเรียน ฝันอยากเป็นตำรวจตbดทีมชาติ

พบสาว15เมืองช้างยอดกตัญญูสู้ชีวิตชกมวยหารายได้เลี้ยงแม่ ค่าเล่าเรียน ฝันอยากเป็นตำรวจติดทีมชาติ 

นร.หญิงม.4ชกมวยหาเลี้ยงแม่ นร.หญิงม.4ชกมวยหาเลี้ยงแม่

ที่ค่ายมวย ก.เกร็ดศิลา หลังร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเลขที่ 141 / 6 หมู่ 1 บ้านทับค่าย ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พบน.ส.เนตรชนก  โพธิ์ล้อม อายุ 15 ปี  เรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนชุมพลวิทยาสรรค์ อ.ชุมพลบุรี  ได้ลงนวมซ้อมมวยไทยเตะต่อยกระสอบทราย รวมทั้งซ้อมล่อเป้าอย่างเอาจริงเอาจังหลังเลิกเรียนในทุกวัน เตรียมตัวขึ้นชกในวันที่ 31 ส.ค.ที่ อ.จังหาญ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวและเป็นทุนการศึกษาให้กับเธอเอง เนื่องจากฐานนะที่ยากจน ขณะที่แม่ต้องเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา ไม่สามารถทำงานหนักและรับจ้างทั่วไปได้ส่วนพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุมากว่า 15 ปีที่แล้ว
 
นางสมัย  โพธิ์ล้อม  อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 บ้านหัวนาคำ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี กล่าวว่า  ประสบอุบัติเหตุรถชนมาตั้งแต่ปี 47 ทำให้ร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย ไม่สามารถทำงานหนักหรือรับจ้างทั่วไปได้  ส่วนสามีกูถูกรถชนเสียชีวิตมาตั้งแต่ 15 ปีก่อน ทำให้ครอบครัวต้องขาดผู้นำ ไม่มีใครดูแลครอบครัว ทำให้น.ส.เนตรชนก ต้องเลือกเส้นทางชกมวยหญิงมาตั้งแต่ชั้น ป.2 ซึ่งรายได้ ก็ไม่มาก 200-500 บ้าง  แต่ก็พอได้เงินมาดูแลครอบครัว มาจนถึงทุกวันนี้  เด็กคนนี้ขยันมีความรับผิดชอบใจจริงก็ไม่ได้อยากให้ลูกชกมวยเพราะทุกครั้งที่เห็นเขาชกตนเองก็รู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะไม่มีอาชีพและรายได้ทางอื่น แต่ก็คอยปลอบใจและให้กำลังใจเขาเสมอ ซึ่งเขาเองก็ยินดีและเต็มใจที่ได้ชกมวยหาเงินมาดูแลครอบครัวและส่งตัวเองเรียน  นอกจากนี้ยังมีลูกชายคนโตอีกคนก็เป็นนักมวยและหารายได้จากการชกมวยมาเลี้ยงดูครอบครัวอีกทาง
 
น.ส.เนตรชนก กล่าวว่า ชอบชกมวยมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นป.2 ใช้ชื่อว่า น้องมด ก.เกร็ดศิลา ชกมวยมาแล้วกว่า 150 ครั้ง  ส่วนใหญ่จะชนะมากกว่า สมัยเด็กได้ค่าตัว 200-500 บาท ปัจจุบันมีค่าตัวประมาณ 1000-3000 บาท แล้วแต่งานและบางครั้งก็ต้องเดินทางไปชกต่างจังหวัด

แต่ถึงแม้การชกต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวบ้างแต่ก็ต้องสู้เพราะไม่มีใครหาเงินดูแลครอบครัวและส่งตัวเองเรียน ที่ผ่านมาเคยคิดเลิกชกมวยเหมือนกันเพราะท้อและเหนื่อยแต่เมื่อคิดถึงหน้าคุณแม่จึงมีกำลังใจที่จะชก  ซึ่งอนาคตอยากเป็นตำรวจ และเป็นทีมชาติ แต่ต้องชกไปเรื่อยจนตัวเองเรียนจบและมีอาชีพในอนาคต ทุกครั้งที่ขึ้นชกแม่ก็จะเป็นกำลังใจให้เสมอก็อยากเชิญชวนให้เยาวชน หันมาเล่นกีฬาห่างไกลจากยาเสพติดด้วย อีกทั้งร่างกายจะได้แข็งแรง
 
ด้านนายชนินทร์  ปรีชากุล โปรโมเตอร์ผู้จัดการแข่งขันชื่อดังภาคอีสาน  กล่าวว่า เหตุผลที่เข้ามาอยู่ในวงการนี้เพราะต้องการดึงเยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด ที่สำคัญสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัวได้เพราะชกแต่ครั้งจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1,000-4,000 บาท หากฝีมือเก่งกล้าหรือขยันฝึกสามารถก้าวไปชกมวยเวทีมาตรฐานเมืองกรุงได้ค่าตัวก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังมีโอกาสไปชกต่างประเทศ ดังนั้น อยากให้หน่วยงานภาครัฐยื่นมือให้การสนับสนุนเยาวชนชาวไทยทั้งชายและหญิงชกมวยห่างไกลยาเสพติด ซึ่งเป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำหากตั้งใจเอาจริงเอาจังกับอาชีพดังกล่าว แม้ว่าจะเจ็บตัวแต่ด้วยนิสัยของชาวอีสานแล้วไม่เคยย่อท้อหากได้รับการสนับสนุนอย่างแท้จริง