ลุยเอาผิด11โรงแรมหรูรุกป่าสงวนภูเก็ต

อธิบดีอุทยานฯลุยสอบ 11 โรงแรมหรูรุกป่าสงวนฯภูเก็ต พบปั้นเอกสารสิทธิไม่ชอบ รุกเข้าพื้นที่ป่ารวมกว่า 3,500ไร่

นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีอุทยานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจสอบเอกสารสิทธิในโรงแรม และรีสอร์ทหรู ใน จ.ภูเก็ต โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ 11 ชุด กระจายกำลังกันตรวจสอบพิกัด แผนที่ และเอกสารสิทธิ 11 แห่งในพื้นที่ ต.สาคู และ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

ทั้งนี้หลังจากที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ทั้ง 11 แห่ง มีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน โดยแต่ละแห่งบุกรุกเข้าไปกลางอุทยานฯไม่ต่ำกว่ารายละ 300-400 ไร่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3,500 ไร่ และได้จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 1 แห่ง คือรายโรงแรมพูลแมน อคาเดียฯ ส่วนที่เหลือจึงต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ 

"มีความชัดเจนว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่อุทยานฯ โดยมิชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด เพราะหลังปี 2507 ที่ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-เขาแพง ก่อนประกาศเป็นอุทยานฯ สิรินาถนั้น ได้มีการให้ราษฎรที่มีเอกสารสิทธิการถือครอง เช่น สค.1 มารับเงินค่าชดเชยไปหมดแล้ว พื้นที่นี้จึงไม่สามารถนำมาออกเอกสารสิทธิใดๆ ได้อีกต่อไป"นายดำรงกล่าว

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ของโรงแรมทั้ง 11 แห่ง เจ้าของเป็นเจ้าเดียวกัน คาดว่าเป็นของกลุ่มทุนของพรรคการเมือง ซึ่งเดิมมีการออกเอกสารสิทธิ เพียง 4-5 แปลง แต่ได้มีการนำมาแบ่งซอยย่อยและขยายเพิ่มออกโฉนดไปเรื่อยๆ  จนเชื่อมต่อกันตลอดแนวชายฝั่งหลายพันไร่ และให้บริษัทต่างๆ เข้ามาซื้อที่เพื่อก่อสร้างเป็นโรงแรมและรีสอร์ตหรู โดยตั้งข้อสังเกตว่าทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในช่วงที่ผ่านมาต้องร่วมมือด้วย จึงสามารถดำเนินการได้

"อุทยานฯ จะยึดเอาเอกสารสิทธิการถือครองเป็นสำคัญ หากพบว่ามีการก่อสร้างที่บุรุกป่าสงวน กรมอุทยานฯ กำลังประสานงานกับศาลปกครอง เพื่อขอให้มีการชะลอการก่อสร้าง เนื่องจากเกรงว่าหากศาลมีคำพิพากษาว่ามีความผิดจนมีคำสั่งไปสู่ การรื้อถอนครั้งใหญ่จะมีปัญหาตามมาอย่างมหาศาล ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม งบประมาณ บุคลากรที่ใช้ในการดำเนินการ นอกจากนี้ จะดำเนินการสืบสวน เพื่อหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐทั้งของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ว่าร่วมกระทำผิด หรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการหรือไม่"นายดำรงค์ กล่าว