posttoday

เขื่อนลำพระเพลิงพร่องน้ำทิ้งจนแห้ง

14 สิงหาคม 2555

เขื่อนลำพระเพลิงโคราชเหลือน้ำไม่ถึง 20%หลังพร่องน้ำทิ้งรับมืออุทกภัยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

เขื่อนลำพระเพลิงโคราชเหลือน้ำไม่ถึง 20%หลังพร่องน้ำทิ้งรับมืออุทกภัยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

 

เขื่อนลำพระเพลิงพร่องน้ำทิ้งจนแห้ง

วันนี้(14 ส.ค.)ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ลดระดับลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้มีการพยายามพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ล่าสุดปริมาณน้ำลดต่ำลงเหลืออยู่เพียง 20.98 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมดรวม 109.63 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 19.13 % ของความจุ เท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงมามานานถึง 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงจำเป็นต้องยืดระยะเวลาการส่งน้ำให้กับชาวนาในพื้นที่ที่ได้เริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปี เพื่อประคับประคองต้นกล้าที่กำลังเจริญเติบโตให้แข็งแรงพร้อมที่จะรอรับปริมาณฝนที่จะได้จากธรรมชาติ
 
นอกจากนี้ฝนทิ้งช่วงผิดปกติทำให้แทบจะไม่มีปริมาณน้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ขณะที่ปริมาณการปล่อยน้ำเพื่อให้ชาวนาได้ทำการเพาะปลูกเฉลี่ยวันละ 3 แสนลบ.ม. จึงทำให้ปริมาณน้ำลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เตรียมสั่งการให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงยุติการปล่อยน้ำให้เกษตรกรตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากต้นกล้าของเกษตรกรเริ่มแข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ประกอบกับมั่นใจว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีปริมาณฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน
 
หม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา กล่าวว่า ฤดูฝนของจังหวัดนครราชสีมา จะเริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.เป็นต้นมาและจะเว้นระยะเวลาเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงประมาณ 1 เดือนคือช่วงเดือนก.ค.และจะเริ่มต้นตกอีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ของทุกปี โดยปริมาณฝนโดยเฉลี่ยแต่ละปีตั้งแต่ช่วงฤดูฝนมาจนถึงกลางเดือนส.ค.ปริมาณฝนโดยเฉลี่ยของจังหวัดนครราชสีมา จะอยู่ที่ประมาณ 600 – 700  มิลลิเมตร จากปริมาณฝนสะสมทั้งปีที่ประมาณ 1,050 มิลลิเมตร แต่ด้วยภาวะฝนทิ้งช่วงที่ยาวนานกว่าปกติ จึงทำให้ตลอดทั้งปีนี้จนถึงปัจจุบันมีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพียง 500 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำต่างๆในจังหวัดน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ
 
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนของปีนี้ปริมาณน้ำโดยเฉลี่ยของอ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่งของประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว  อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย  อ่างเก็บน้ำลำปลายมาศ อ.เสิงสาง  อ่างเก็บน้ำลำแชะ และอ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี จะอยู่ที่ปริมาณร้อยละ 70 - 90 ของความจุ ทำให้ในขณะนี้ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมาเตรียมที่จะสั่งการให้ทุกอ่างเก็บน้ำหยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตรตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป เพื่อที่จะเริ่มกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามฤดูแล้ง และเตรียมพร้อมสำหรับการบริหารจัดการน้ำหากเกิดภาวะฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้  แต่หากหลังจากวันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป ยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ตามที่คาดการณ์ไว้ ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ก็ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว โดยได้มีการประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้เตรียมพร้อมที่จะเริ่มปฏิบัติการทำฝนหลวงทันทีหากมีการร้องขอ