คาดหลวงพ่อคูณกลับวัดได้7ส.ค.

คณะแพทย์ เผย หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้น หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน กลับวัดบ้านไร่ได้อังคารที่ 7 ส.ค.นี้

ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมาด้วยอาการอาพาธด้วยโรคหลอดลมอักเสบ และต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบจนขณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอดและยังคงพักรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานั้น

 ล่าสุดเช้าวันนี้(1ส.ค.55) นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา และแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณฯเปิดเผยว่า  หลวงพ่อคูณอาการอาพาธดีขึ้นมาก อาการไข้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เสมหะหายเป็นปกติ สามารถพูดคุยรู้เรื่อง รู้สึกตัวดี ส่วนอาการอ่อนเพลียที่คณะแพทย์เป็นห่วง หลังจากที่ตลอดทั้ง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา หลวงพ่อคูณมีอาการอ่อนเพลียแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน พบว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้(31ก.ค.55) อาการอ่อนเพลียของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

ส่วนกรณีที่หลวงพ่อคูณมีอาการพูดอยู่ในลำคอโดยไม่เปล่งเสียงออกมานั้นเกิดจากอาการง่วงของหลวงพ่อคูณ เนื่องจากในช่วงกลางคืนหลวงพ่อคูณจะตื่นจากการจำวัดแล้วมาพูดคุยกับลูกศิษย์ที่ดูแล ดังนั้นทำให้เวลาที่ผู้สื่อข่าวเข้ามาสัมภาษณ์หลวงพ่อคูณในช่วงเวลากลางวัน หลวงพ่อคูณไม่ค่อยพูดจานั้นเนื่องจากหลวงพ่อคูณมีอาการง่วงนอนจากการตื่นกลางดึก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีอายุมาก

สำหรับแนวทางการรักษาหลวงพ่อคูณ คณะแพทย์ยังคงใช้แนวทางการรักษาหลวงพ่อคูณอย่างเดิมหลังจากที่มีการหยุดยาปฏิชีวนะที่ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำโดยการให้ยาละลายเสมหะ ควบคู่กับการให้ยาพ้นขยายหลอดลม แต่อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ก็จะต้องให้ลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ดูแลหลวงพ่อคูณ ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดเช่นเดิม เนื่องจากหลวงพ่อคูณอายุมากแล้ว อีกทั้งภาวะแทรกซ้อนก็อาจจะเกิดกับหลวงพ่อคูณได้ทุกเมื่อดังนั้นจึงจะต้องมีการเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเผื่อหากเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาก็จะสามารถดูแลได้ทันท่วงที 

ทั้งนี้คณะแพทย์คาดว่าหากหลวงพ่อคูณไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะอนุญาตให้หลวงพ่อคูณกลับวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุด จ.นครราชสีมา ได้ภายในวันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2555