ท้องถิ่นค้านรัฐเทงบหมื่นล.ปลูกป่า

ชมรมท้องถิ่นไทยคัดค้ารัฐบาลใช้งบหมื่นล้านบาทปลูกป่าแนะควรทุ่มงบให้อปท.ดูแลป่าจะได้ประโยชน์มากกว่า

นายรัฐวุฒิชัย ใจกล้า รองประธานชมรมท้องถิ่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  ตามที่รัฐบาลเตรียมจะใช้งบประมาณจำนวน 10,000 ล้านบาท มาใช้สำหรับการสร้างป่าไม้เพื่อดูดซับน้ำตามแนวความคิดของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อนั้น โดยมีนโยบายต้องการเปลี่ยนป่าเบญจพรรณมาเป็นป่าดิบชื้นเพื่อหวังให้ดูดซับน้ำ ในส่วนตัวยังมองว่าจะทำได้อย่างไรการเปลี่ยนป่าพูดง่ายแต่ทำได้ยาก และก็ยังไม่เคยเห็นว่าการเปลี่ยนป่าจะทำได้ มีแต่พบเห็นการบุกรุกทำลายป่าที่เกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น ในพื้นที่เขตติดต่อระหว่าง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กับ อ.เมือง จ.พะเยา เป็นพื้นที่สูงชัน พบมีพื้นที่บุกรุกทำลาย และเกิดไฟป่าทุกปีจนกลายเป็นดอยหัวโล้นไปแล้ว
 
รอง ปธ.ชมรมท้องถิ่น  กล่าวอีกว่า การสร้างป่าตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เพียงไม่ทำลายคือการปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูกมันก็สามารถเจริญเติบโตได้เองและจะเป็นป่าสมบูรณ์ในที่สุด และไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณแม้แต่บาทเดียว ขณะที่รัฐบาลจะเตรียมใช้งบประมาณหมื่นล้านเปลี่ยนป่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ในฐานะคนชุมชน คนท้องถิ่นชนบทอยู่และใช้ประโยชน์จากป่าไม้ใกล้บ้านเห็นว่าจะดีมากหากรัฐบาลนำงบประมาณหมื่นล้านทุ่มให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ชุมชนที่รักษาป่าไม้ มาทำการรักษาป่าไม้ ทั้งป่าต้นน้ำและป่าชุมชน เพราะทุกวันนี้ชาวบ้าน ชุมชน ดูแลป่าดีกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมาก และอยากเสนอให้เปลี่ยนชื่อกรมป่าไม้ เป็นกรมรักษาป่าไม้ เพื่อป่าจะได้ไม่ต้องถูกทำลายจนเหลือน้อยลงทุกวัน
 
ด้านนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานโครงการประวัติศาสตร์ นิเวศวัฒนธรรมเพื่อการฟื้นฟูชุมชน ท้องถิ่นลุ่มน้ำภาคเหนือและเครือข่ายลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยแล้วเป็นพื้นที่มีภูมิประเทศ วัฒนธรรมวิถีชีวิตที่แตกต่างจากประเทศในพื้นที่โซนยุโรป อเมริกา หรือ โลกตะวันตก ดังนั้นการจัดการน้ำตามรูปแบบของโลกตะวันตก จึงไม่ใช่ทางออกและไม่มีความเหมาะสมที่จะนำมาจัดการปัญหาเรื่องน้ำในเมืองไทย คนไทยคือผู้ที่รู้ดีที่สุดว่าการแก้ปัญหาน้ำได้อย่างไร เพราะอยู่กับน้ำ รับทราบปัญหาด้วยดีตลอดมา ดังนั้นทางออกของการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำคนไทยก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องใช้โมเดลของต่างประเทศ
 
“ที่สำคัญประเทศไทยไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อีกแล้ว เพราะเมื่อสร้างเขื่อนพื้นที่ป่าก็หายไปคราวละมากๆ หยุดเขื่อน หยุดทำลายป่า เท่านี้ก็ได้ป่าคืนมาแล้ว และผมเห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลนำงบประมาณที่นายปลอดประสพคิดจะนำไปทำเรื่องเปลี่ยนป่าเบญจพรรณมาเป็นป่าดิบชื้นนับหมื่นล้าน ควรนำงบประมาณดังกล่าวมากระจายให้แก่ชุมชน องค์กรประชาชน ที่ได้ทำหน้าที่ดูแลป่ามายาวนาน ทั้งป่าชุมชน ป่าต้นน้ำ เพียงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมจัดการป่า หยุดสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ หยุดทำลายป่า คนไทยก็จะได้ป่าที่สมบูรณ์กลับคืนมาทั่วประเทศอย่างแน่นอน” นายสมเกียรติ กล่าว