ยันไม่มีคนเขมรเข้ารักษาโรคมือเท้าปาก

ผอ.โรงพยาบาลกาบเชิงสุรินทร์ยืนยันยังไม่พบชาวกัมพูชาเข้ามารักษาตัวด้วยโรคมือ เท้า ปาก

พ.ต.นพ.ศตวรรษ สินประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาล ที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา  ใกล้ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีชาวกัมพูชาเข้ามารักษาโรคมือ ปาก เท้า หลังมีขาวเด็กชาวกัมพูชา ป่วยและเสียชีวิต ในประเทศกัมพูชาจำนวน 59 คน ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุเกิดจากเชื้ออินเทอร์โรไวรัส  71
 
พ.ต.นพ.ศตวรรษ กล่าวว่า  ทางโรงพยาบาลกาบเชิงได้รับทราบปัญหาการติดเชื้อเทอโรไวรัส 71 ในเด็กชาวกัมพูชามาเป็นระยะเวลา 3 เดือนแล้ว โดยได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับแพทย์จากจ.อุดรมีชัย ของกัมพูชา เพื่อเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง ส่วนชาวกัมพูชาที่มารับการรักษาในช่วงนี้ ส่วนมากจะเป็นโรคประจำถิ่นเช่นเดียวกันกับบ้านเรา เช่น ท้องร่วง  วัณโรคและไข้หวัด ซึ่งเฉลี่ยต่อวัน 8-10 คน  เท่านั้น ซึ่งการรักษาก็รักษาอย่างเต็มที่เท่าเทียมกับชาวไทย เพื่อมนุษยธรรม  ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องแบกรับภาระค่ารักษาพยาบาลชาวกัมพูชา ตั้งแต่ปี 40 เป็นต้นมานับ 10 ล้านบาท
 
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเชื้อเทอโรไวรัส 71 แพร่ระบาดในเด็กชาวกัมพูชา แต่บริเวณด่านถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง  พื้นที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งชาวไทยและกัมพูชา ยังเดินทางผ่านแดนไปมาหาสู่กันปกติ การค้าขายเป็นปกติ โดยทางสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้สั่งการให้สาธารณสุขอ.กาบเชิง  ร่วมมือกับโรงพยาบาลกาบเชิง ติดตามและเฝ้าระวังโรค มือ ปากเท้า ในเด็ก กัมพูชา อย่างใกล้ เพื่อป้องกันการระบาดเข้ามาในเขตประเทศไทย