ชาวสวนปาล์มเตรียมเคลื่อนไหวหลังราคาตก

ชาวสวนปาล์มภาคใต้ ขู่เคลื่อนไหวหลังมติ ครม.นำเข้าปาล์มดิบจากต่างประเทศพ่นพิษทำราคาในประเทศร่วง

นายลือชา อุ่นยวง นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎรธานี เปิดเผยกรณีมติคณะรัฐมนตรีให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ 40,000 ตันในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อควบคุมราคาน้ำมันปาล์มขวดไม่ให้เกินกว่าขวดละ 42 บาท ว่า ในฐานะนายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันและคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้คัดค้านการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศมาโดยตลอด เพราะจะส่งกระทบต่อเกษตรกรและโรงกลั่น แต่ทางรัฐบาลใช้ข้ออ้างว่าผู้บริโภคต้องรับภาระราคาน้ำมันที่แพงจึงมีความจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันปาล์ม

นายลือชา กล่าวว่า คณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้เสนอต่อรัฐบาลว่าหากจะมีการซื้อน้ำมันจากต่างประเทศให้ซื้อจากประเทศไทยไปขายให้กับโรงกลั่นน้ำมันจะดีกว่า หรือปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดแล้วนำงบประมาณมาชดเชยส่วนต่างให้กับโรงกลั่น เนื่องจากเดือนพฤษภาคมจะถึงนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มทลายจะมีปริมาณออกมามากและจะเป็นช่วงที่ปาล์มน้ำมันมีราคาต่ำลงอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็ยังนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมจนมาถึงขณะนี้ราคาปาล์มได้ตกลงแล้ว 40-30 สตางค์ทันที

"ขณะนี้การส่งออกปาล์มน้ำมันทั่วไปอยู่ที่ลิตรละ 36 บาท ในส่วนของประเทศไทยอยู่ที่ 35 บาท แต่รัฐบาลจะนำเข้าน้ำมันปาล์มที่ราคา 31 บาท ซึ่งไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะนำเข้าจากที่ใด แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอย่างแน่นอน ขณะนี้ก็เริ่มมีการเตรียมรวมตัวเพื่อกดดันรัฐบาลทั้งในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกบ้างแล้ว"นายลือชา กล่าว

ด้านนายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า รัฐบาลจะนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบล็อตแรก 10,000 ตัน เพื่อนำมาผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวด จะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันลดต่ำลงและส่งผลกระทบเป็นปัจจัยลบในทางตลาด เนื่องจากเดือนหน้าเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มออกมากจะมีราคาต่ำอยู่แล้ว แต่พอนำเข้าน้ำมันปาล์มเข้ามาจะทำให้ราคาผลผลิตปาล์มลดลงอีก

"การแก้ปัญหาควรปล่อยไปตามกลไก เพราะปกติแต่ละปีจะขาดแคลนปาล์มทลายประมาณ 2-3เดือน  แต่ถ้ารัฐบาลให้คลังสินค้าจัดเก็บสต๊อกน้ำมันปาล์มไว้ในช่วงที่มีผลปาล์มล้นตลาดน่าจะแก้ปัญหาการขาดแคลนได้ ซึ่งแต่ละปีให้สต๊อกมีน้ำมันปาล์มเก็บไว้ 150,000 ตันน่าจะพอแล้ว”นายพงศ์นรินทร์ กล่าว